ลูกปืนฝาเหล็ก (Z) กับฝายาง (RS) ต่างกันยังไง?

ตลับลูกปืนวิธีการออกแบบหรือผลิตที่แตกต่างกันเพื่อให้ผู้ใช้งานนำไปใช้ตลับลูกปืนตามสภาพแวดล้อมหรือความต้องการที่แตกต่างกัน

ซึ่ง 1 ในคำถามยอดฮิตก็คือแล้วลูกปืนฝาเหล็ก (Z) กับฝายาง (RS) แตกต่างกันอย่างไร?

ตลับลูกปืนฝายาง หรือลูกปืนที่มีรหัสต่อท้ายเป็น “RS หรือ 2RS” สามารถทำงานภายใต้สภาพวะที่มีความชื้นหรือฝุ่นผงได้ดีกว่าฝาเหล็ก แต่ตลับลูกปืนฝาเหล็ก หรือลูกปืนที่มีรหัสต่อท้ายเป็น “Z หรือ 2Z” สามารถทำความเร็วรอบได้สูงกว่า แต่ไม่สามารถป้องกันความชื้นได้ดีเท่าแบบฝายาง อย่างไรก็ตามมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุณหภูมิหรือการบำรุงรักษาต่างๆ

ลูกปืนเหล็ก(Z) ลูกปืนยาง(RS)

ตลับลูกปืนสองชนิดนี้เป็นตลับลูกปืน “Maintainence Free” คือตลับลูกปืนที่ไม่จำเป็นต้องเติมสารหล่อลื่นเพิ่มเติม หลังการสั่งซื้อสามารถนำมาใช้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องเติมสารหล่อลื่นจนอายุการใช้งานของมันหมดไปโดยธรรมชาติ

1. วัสดุ:

  • ลูกปืนฝาเหล็ก: (ฝาเหล็ก) แบริ่งที่มีการป้องกันด้วยการปิดทั้งสองข้างด้วยสแตนเลสหรือโลหะชนิดอื่น ๆ โดยทั่วไปเป็นสแตนเลสหรือสแตนเลสตันเล็ก ๆ ซึ่งถูกติดตั้งที่วงนอกของแบริ่ง เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นอุปสรรคทางกายภาพเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้เข้าสู่แบริ่ง
  • ลูกปืนฝายาง: (ซีลยาง) แบริ่งที่มีการป้องกันด้วยซีลยางที่ติดตั้งทั้งสองข้างของแบริ่ง เหล่านี้มีการป้องกันเชิงกันสนิทและชั้นเชิงกันสกปรกที่ดี ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้ยางสังเคราะห์เช่นไนทริลหรือวิทอน ที่มีหน้าที่สร้างการปิดสนิทเพื่อป้องกันสิ่งสกปรก

2. การป้องกันสิ่งสกปรก

  • ลูกปืนฝาเหล็ก: (ป้องกันฝุ่นผง) แบริ่งที่มีการปิดมีการป้องกันสิ่งสกปรกในระดับปานกลาง เช่น ฝุ่น ความสกปรกและความชื้น การปิดโลหะสามารถป้องกันสิ่งสกปรกบางส่วนได้ แต่อาจมีการเข้าสู่แบริ่งได้บ้าง
  • ลูกปืนฝายาง: (ป้องกันความชื้น กักเก็บจารบีได้ดีกว่า) แบริ่งที่มีการป้องกันด้วยซีลยางให้ความปลอดภัยสูงกว่า สภาพซีลยางสามารถปิดรั้วแบบแน่นหนาที่สุดรอบแบริ่ง ป้องกันสิ่งสกปรกส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าสู่ได้ ลดความเสียหายหรือความเสียหายก่อนเวลาได้

3. แรงเสียดทาน:

  • ลูกปืนฝาเหล็ก: (ไม่มีแรงเสียดทาน) แบริ่งฝากเหล็กจะไม่มีการเสียดเสียของฝากับตัวรางวิ่ง ทำให้สามารถทำความเร็วรอบได้อย่างเต็มที่
  • ลูกปืนฝายาง: (มีแรงเสียดทานเล็กน้อย ทำความเร็วรอบได้ต่ำกว่า) แบริ่งฝาซีลยางจะมีแรงเสียดทานที่เกิดจากตัวเนื้อซีลยางจะแนบเข้ากับรางวิ่ง ทำให้ทำความเร็วรอบได้ไม่จัดเท่าฝาเหล็ก

4. การบำรุงรักษา:

  • ลูกปืนฝายาง & ลูกปืนฝาเหล็ก: (Maintainence Free) แบริ่งที่มีฝาปิดไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบฝายางหรือฝาเหล็ก ถือว่าเป็นแบริ่งจำพวก Maintainence-Free หรือเป็นแบริ่งที่ไม่จำเป็นต้องเติมจารบีเพิ่ม เพราะในตัวแบริ่งจะมีจารบีที่เติมมาจากโรงงาน SKF อยู่แล้ว และได้คำนวณอายุการใช้งานต่อจารบีที่เติมมาอย่างเหมาะสมแล้ว

5. อุณหภูมิและสภาพแวดล้อม:

  • ลูกปืนฝาเหล็ก: (ทนอุณหภูมิการทำงานได้สูงกว่า) แบริ่งที่ปิดสามารถทนอุณหภูมิการทำงานที่สูงกว่าแบริ่งที่ปิดด้วยซีลยาง ซีลโลหะมีความทนทานต่อความร้อนสูงและสามารถทนอุณหภูมิสูงขึ้นได้โดยไม่เสื่อมลง
  • ลูกปืนฝายาง: (ทนอุณหภูมิการทำงานได้ต่ำกว่า) แบริ่งที่ปิดด้วยซีลยางเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการปิดสนิทที่ดีกว่าเพื่อป้องกันความชื้นและของเหลว แบริ่งเหล่านี้ให้ความป้องกันที่ดีกว่าในการป้องกันน้ำหรือของเหลวเช่นน้ำ

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามเรามาได้ที่: