ขนาดตารางเทียบเบอร์ลูกปืน SKF (ครบทุกรุ่น 2025)

ตารางราคา ตารางขนาดเบอร์แบริ่ง SKF เบอร์ลูกปืน SKF ทั้งหมดครบจบที่เดียว ไม่ต้องไปที่ไหนแล้ว Bookmark ไว้บนบราวเซอร์เลยครับ 👍🏻

วิธีใช้ตารางเปรียบเทียบลูกปืน SKF

วิธีใช้เบื้องต้น:

  1. ใช้ Ctrl + f เพื่อตามหารหัสสินค้าที่คุณกำลังตามหาอยู่
  2. ถ้าคุณรู้ขนาดลูกปืนอยู่แล้วแต่ไม่รู้รหัสลูกปืน คุณสามารถดูจากสารบัญเพื่อตามหาลูกปืนที่คุณกำลังมองหาอยู่
  3. ถ้าใช้ไม่ถูก ดูไม่ออก หรือ มองไม่เห็น ไม่เป็นไรครับ! ติดต่อเราทันที: @tms1987 หรือโทร 02-639-4222 เราพร้อมยินดีช่วยบริการอย่างเต็มที่เพื่อตามหาสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่

ตารางนี้ถูกรวบรวมโดยบริษัท เตียวโม่วเส็ง จำกัด (TMS) ตัวแทนจำหน่าย SKF โดยแต่งตั้งประสบการณ์กว่า 60 ปี หากคุณมีข้อสงสัยเรื่องเทคนิคหรือต้องการเสนอราคา สามารถติดต่อเราได้ที่:

 

สารบัญตารางเปรียบเทียบแบริ่ง

  1. Deep Groove Ball Bearing (ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก) (6xxx)
  2. Self-Aligning Ball Bearing (ลูกปืนเม็ดกลมสองแถวรับการเยื้องแนวได้) (12xx, 22xx)
  3. Angular Contact Ball Bearing (ลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม) (7xxx, 3xxx)
  4. Thrust Ball Bearing (ลูกปืนเม็ดกลมกันรุน) (5xxxx)
  5. Spherical Roller Bearing (ลูกปืนเม็ดโค้งสองแถวรับการเยื้องแนวได้) (2xxxx)
  6. Taper Roller Bearing (ลูกปืนเตเปอร์) (3xxxx)
  7. Cylindrical Roller Bearing (ลูกปืนเม็ดหมอนทรงกระบอก) (N, NU NUP, NJ)
  8. Spherical Thrust Roller Bearing (ลูกปืนเม็ดโค้งกันรุน) (29xxx)
  9. CARB Roller Bearing (ตลับลูกปืนคาร์บ) (C xxx)
  10. Pillow Block Bearing Unit (ลูกปืนตุ๊กตาพิลโลว์บล็อคเม็ดกลม) (UCP, SYJ)
  11. Square Flanged Bearing Unit (ลูกปืนตุ๊กตาหน้าแปลนจัตุรัส) (UCF, FYJ)
  12. Oval Flanged Bearing Unit (ลูกปืนตุ๊กตาเม็ดกลมแบบวงรีหน้าแปลน) (FYTB, UCFL)
  13. Round or Triangular Bearing Unit (ลูกปืนตุ๊กตาหน้าแปลนแบบกลมและสามเหลี่ยม) (UCFC) 
  14. Take-Up Bearing Unit (ลูกปืนตุ๊กตาเม็ดกลมแบบเทคอัพ) (UCT, TU)
  15. Ball Bearing For Bearing Unit (ตลับลูกปืน (ตลับลูกปืน Y)) (YAR, UC, UK)
  16. Spherical Plain Bearing (ลูกปืนตาเหลือกรับการเยื้องแนวได้) (GE)
  17. Adapter Sleeve (ปลอกปรับขนาด) (H, HE)
  18. Locating Ring (แหวนกำหนดตำแหน่ง) (FRB)
  19. Lock Nut (น็อตล็อก) (KM)
  20. Housing Seal (ซีลสำหรับเสื้อ) (TSN)

Deep Groove Ball Bearing

สงสัยว่ารหัสต่อท้ายดูยังไง?: ตารางรหัสต่อท้ายลูกปืน SKF ครบจบที่นี่ที่เดียว

Self-Aligning Ball Bearing

 

Angular Contact Ball Bearing

ไม่แน่ใจรังเหล็กหรือรังทองเหลืองดีกว่ากัน?: รังเหล็ก VS รังทองเหลือง เจาะลึก

Thrust Ball Bearing

 

Spherical Roller Bearing

 

Taper Roller Bearing

 

Cylindrical Roller Bearing

 

Spherical Thrust Roller Bearing

 

CARB Roller Bearing

 

Pillow Block Bearing Unit

 

Square Flanged Bearing Unit

 

Oval Flanged Bearing Unit

 

Round or Triangular Bearing Unit

UCFC 205 - Ball bearing unitsDimensions - UCFC 205Dimensions - UCFC 205

 

Take-Up Bearing Unit

 

Ball Bearing For Bearing Unit

 

Spherical Plain Bearing

 

Adapter Sleeve

 

Locating Ring

 

Lock Nut

 

Housing Seal

 


ตารางราคาสายพานร่องวี สายพานไทม์มิ่ง SKF (ครบจบที่เดียว 2024)

ตารางราคา ตารางสายพานร่องวี สายพานไทม์มิ่ง SKF ทั้งหมดครบจบที่เดียว ไม่ต้องไปที่ไหนแล้ว Bookmark ไว้บนบราวเซอร์เลยครับ 👍🏻

วิธีใช้ตารางเปรียบเทียบสายพาน SKF

วิธีใช้เบื้องต้น:

  1. ใช้ Ctrl + f เพื่อตามหารหัสสินค้าที่คุณกำลังตามหาอยู่
  2. ถ้าคุณรู้ขนาดสายพานอยู่แล้วแต่ไม่รู้รหัสลูกปืน คุณสามารถดูจากสารบัญเพื่อตามหาลูกปืนที่คุณกำลังมองหาอยู่
  3. ถ้าใช้ไม่ถูก ดูไม่ออก หรือ มองไม่เห็น ไม่เป็นไรครับ! ติดต่อเราทันที: @tms1987 หรือโทร 02-639-4222 เราพร้อมยินดีช่วยบริการอย่างเต็มที่เพื่อตามหาสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่

ตารางนี้ถูกรวบรวมโดยบริษัท เตียวโม่วเส็ง จำกัด (TMS) ตัวแทนจำหน่าย SKF โดยแต่งตั้งประสบการณ์กว่า 60 ปี หากคุณมีข้อสงสัยเรื่องเทคนิคหรือต้องการเสนอราคา สามารถติดต่อเราได้ที่:

สารบัญตารางเปรียบเทียบสายพาน SKF

  1. สายพานร่องวี (A, B, C, Z, SPA, SPB, SPC, SPZ)
  2. สายพานร่องวีแบบแคบ (3V, 5V, 8V)
  3. สายพานไทม์มิ่ง (หน่วยมิล) (5M, 8M, 14M)
  4. สายพานไทม์มิ่ง (หน่วยนิ้ว) (L, H, XL)

 

ตารางสายพานร่องวี

PHG A100 - Belts

 

 

ตารางสายพานร่องวีแบบแคบ

PHG 3V1000 - Belts

 

 

ตารางสายพานไทม์มิ่ง (แบบหน่วยมิล)

PHG 1600-8M-50 - Belts

 

 

ตารางสายพานไทม์มิ่ง (แบบหน่วยนิ้ว)

PHG 100-XL-037 - Belts

 

 


ตารางขนาด Oil Seal ตารางซีลกันฝุ่นกันน้ำมัน (ครบทุกรุ่น 2025)

ตารางราคา ตารางขนาดซีล SKF ทั้งหมดครบจบที่เดียว ไม่ต้องไปที่ไหนแล้ว Bookmark ไว้บนบราวเซอร์เลยครับ 👍🏻

วิธีใช้ตารางเปรียบเทียบซีล SKF

วิธีใช้เบื้องต้น:

  1. ใช้ Ctrl + f เพื่อตามหารหัสสินค้าที่คุณกำลังตามหาอยู่
  2. ถ้าคุณรู้ขนาดลูกปืนอยู่แล้วแต่ไม่รู้รหัสลูกปืน คุณสามารถดูจากสารบัญเพื่อตามหาลูกปืนที่คุณกำลังมองหาอยู่
  3. ถ้าใช้ไม่ถูก ดูไม่ออก หรือ มองไม่เห็น ไม่เป็นไรครับ! ติดต่อเราทันที: @tms1987 หรือโทร 02-639-4222 เราพร้อมยินดีช่วยบริการอย่างเต็มที่เพื่อตามหาสิ่งที่คุณกำลังมองหาอยู่

ตารางนี้ถูกรวบรวมโดยบริษัท เตียวโม่วเส็ง จำกัด (TMS) ตัวแทนจำหน่าย SKF โดยแต่งตั้งประสบการณ์กว่า 60 ปี หากคุณมีข้อสงสัยเรื่องเทคนิคหรือต้องการเสนอราคา สามารถติดต่อเราได้ที่:

 

 

ตารางขนาดซีล Oil Seal เทียบซีลกันฝุ่น

 

 


ตารางพิกัดความเผื่องานสวม (สำหรับประกอบลูกปืนเพลาเสื้อ)

18% ของตลับลูกปืนที่เสียหายทั้งหมดนั่น เสียหายจากการที่เราประกอบตลับลูกปืนไม่ถูกต้อง

หนึ่งในสาเหตุของ 18% นี้ ก็รวมถึงการสวมตลับลูกปืนเข้ากับเพลาที่ไม่ได้มาตราฐาน วันนี้เราจึงจะมาอธิบายอย่างเป็นขั้นเป็นตอน วิธีการหาค่าความเผื่อในการสวมที่เหมาะสำหรับการทำงานของคุณโดยเฉพาะ

สารบัญ

พิกัดงานสวม พิกัดความเผื่อ คืออะไร?

พิกัดงานสวม (Fits and Tolerances) เป็นระบบที่ใช้ในวิศวกรรมและอุตสาหกรรมเพื่อระบุความสอดคล้องระหว่างขนาดและรูปร่างของชิ้นงาน โดยปกติจะปรากฏในรูปแบบตารางเพื่อแสดงข้อมูลเกี่ยวกับขนาดและความผิดพลาดที่ยอมรับสำหรับชิ้นงาน ระบบนี้ช่วยในการควบคุมคุณภาพและความพอดีของชิ้นงานที่ต้องตรงตามข้อกำหนดที่กำหนดไว้ในการออกแบบ.

พิกัดงานสวม (Fit & Tolerance) ประกอบด้วยสองส่วนหลักคือ:

  1. Fit (การสวม): Fit คือการสวมหรือการสวมชิ้นงานสองชิ้นเข้าด้วยกันด้วยความแน่นเท่าไหร่ ยกตัวอย่างลูกปืนตุ๊กตาอาจจะใช้การสวมเข้ากับเพลาแบบ Transition Fit หรือการสวมพอดี การสวมจะถูกแบ่งออกเป็น 3 อย่างหลักๆ นั่นคือ:
    • Loose Fit - สวมหลวม
    • Transition Fit - สวมพอดี
    • Interference Fit - สวมแน่น
  2. Tolerance (ค่าความผิดพลาด): Tolerance คือค่าที่ระบุระยะห่างที่ยอมรับให้มีความผิดพลาดหรือความคลาดเคลื่อนจากข้อกำหนดในการออกแบบ. มันช่วยในการกำหนดความคงเส้นคงวาของชิ้นงานและการใช้วัสดุที่มีความผิดพลาดในกระบวนการผลิต โดยการระบุค่าความผิดพลาดนี้ในหน่วยที่เรียกว่า "tolerance."

พิกัดงานสวมเป็นส่วนสำคัญในการควบคุมคุณภาพและความพอดีของชิ้นงาน เนื่องจากมันช่วยในการกำหนดค่าที่ยอมรับสำหรับความผิดพลาดและการตรวจสอบว่าชิ้นงานที่ผลิตออกมาเป็นไปตามข้อกำหนดหรือไม่

 

3 ขั้นตอนในการหาค่าความเผื่อสำหรับการสวมตลับลูกปืนเข้ากับเพลา

1. เช็คให้ชัดก่อน: ตลับลูกปืนของคุณทำงานในลักษณะไหน?

ในขั้นตอนแรก เราต้องแยกประเภทการหมุนของเครื่องจักรให้ออกก่อน

การแยกประเภทการหมุน เราจะแยกจาก:

  1. อะไรหมุน อะไรนิ่ง: วงแหวนที่อยู่นิ่ง คือวงแหวนนอกหรือวงแหวนใน ในขณะทำงาน และวงแหวนที่หมุน คือวงแหวนนอกหรือวงแหวนใน เครื่องจักรส่วนใหญ่มักจะเป็น รูปแบบที่ 1 นั่นคือ วงแหวนในหมุน (เพลาหมุน) วงแหวนนอกนิ่ง (ตัวเสื้ออยู่กับที่) แต่ตัวอย่างเช่นล้อรถยนต์ เราอาจจะบอกว่าได้ว่า สิ่งที่หมุนคือ วงแหวนนอกหมุน (ล้อหมุน) วงแหวนในนิ่ง (เพลาอยู่กับที่)
  2. แรงโหลด เหวี่ยงตามทิศทางการหมุนหรือไม่: เครื่องจักรส่วนมาก แรงโหลดจะชี้ไปในทิศทางเดียวตลอด เช่น รถยนต์มีน้ำหนักที่เพลาตลอดเวลา (น้ำหนักของรถยนต์กดชี้ลดไปตามแรงโน้มถ่วงตลอดเวลา) พัดลม มีแรงชี้ไปทิศทางเดียวตลอดเวลา นั่นก็คือ ชี้ลงจากแรงกดของแรงโน้มถ่วง และชี้ไปในทิศทางแกนเล็กน้อยด้วยแรงของใบพัด

เมื่อเราแยกออกตาม 2 ข้อด้านบนแล้ว เราจะสามารถใช้ตาราง "เงื่อนไขการทำงานหรือการหมุนของเครื่องจักร" ด้านล่างนี้ได้อย่างง่ายได้

เงื่อนไขการทำงานหรือการหมุนของเครื่องจักร

เงื่อนไขการทำงาน รูปภาพแสดงแผนผัง สภาวะการบรรทุก คำแนะนำ
วงแหวนในหมุน Conditions of rotation and loading 1 วงแหวนในรับโหลดขณะหมุน สวมอัด (Interference Fit) สำหรับวงแหวนใน
วงแหวนนอกนิ่ง วงแหวนนอกรับโหลดขณะหยุดนิ่ง สวมหลวม (Loose Fit) สำหรับวงแหวนนอก
แรงโหลดไปในทิศทางเดียว แบบคงที่
วงแหวนในหมุน Conditions of rotation and loading 3 วงแหวนในรับโหลดขณะหยุดนิ่ง สวมหลวม (Loose Fit) สำหรับวงแหวนใน
วงแหวนนอกนิ่ง วงแหวนนอกรับโหลดขณะหมุน สวมอัด (Interference Fit) สำหรับวงแหวนนอก
แรงโหลดวิ่งตามวงแหวนใน
วงแหวนในนิ่ง Conditions of rotation and loading 2 วงแหวนในรับโหลดขณะหยุดนิ่ง สวมหลวม (Loose Fit) สำหรับวงแหวนใน
วงแหวนนอกหมุน วงแหวนนอกรับโหลดขณะหมุน สวมอัด (Interference Fit) สำหรับวงแหวนนอก
แรงโหลดไปในทิศทางเดียว แบบคงที่
วงแหวนในนิ่ง Conditions of rotation and loading 4 วงแหวนในรับโหลดขณะหมุน สวมอัด (Interference Fit) สำหรับวงแหวนใน
วงแหวนนอกหมุน วงแหวนนอกรับโหลดขณะหยุดนิ่ง สวมหลวม (Loose Fit) สำหรับวงแหวนนอก
แรงโหลดวิ่งตามวงแหวนนอก

 

2. ความเผื่องานสวม พิกัดงานสวมสำหรับเพลาสวมเข้ากับวงแหวนในตลับลูกปืน SKF

หลังจากที่เราเข้าใจชัดเจนแล้วว่า ตลับลูกปืนของเราถูกนำไปใช้งานอย่างไร (แรงโหลดหมุนตามวงแหวนมั้ย? วงแหวนนอกหรือวงแหวนใน อันไหนหยุดอยู่นิ่ง อันไหนหมุน) เราจะสามารถมาดูตารางเพื่อค่าความเผื่องานสวม Tolerance Class ที่เหมาะสมกับเครื่องจักรของเรา

ตารางจะมี 3 รูปแบบดังนี้:

  1. ตารางพิกัดงานสวมสำหรับ "เพลา - ตลับลูกปืนเม็ดกลม (ที่รับแรงในแนวรัสมี Radial Load Bearings)"
  2. ตารางพิกัดงานสวมสำหรับ "เพลา - ตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก เม็ดหมอน เม็ดโค้ง เม็ดเรียว (ที่รับแรงในแนวรัสมี Radial Load Bearings)"
  3. ตารางพิกัดงานสวมสำหรับ "เพลา - ตลับลูกปืนกันรุน ทั้งเม็ดกลมและเม็ดโค้ง (ที่รับแรงในแนวแกน Axial Load Bearings)"

ตารางพิกัดงานสวมสำหรับ "เพลา - ตลับลูกปืนเม็ดกลม (ที่รับแรงในแนวรัสมี Radial Load Bearings)"

เงื่อนไขการทำงาน เส้นผ่านศูนย์กลางของแกนเพลา (มม.) Tolerance Class ความคงที่สำหรับเพลาแนวนอน ความคงที่สำหรับเพลาแนวตั้ง Ra
µm
โหลดของแหวนแหวนในหมุนหรือทิศทางโหลดไม่แน่นอน
โหลดเบา (P ≤ 0.05 C) ≤ 17 js5 IT4/2 IT4 0.4
> 17 ถึง 100 j6 IT5/2 IT5 0.8
> 100 ถึง 140 k6 IT5/2 IT5 1.6
โหลดกลางถึงหนัก (0.05 C < P ≤ 0.1 C) ≤ 10 js5 IT4/2 IT4 0.4
> 10 ถึง 17 j5 IT4/2 IT4 0.4
> 17 ถึง 100 k5 IT4/2 IT4 0.8
> 100 ถึง 140 m5 IT4/2 IT4 0.8
> 140 ถึง 200 m6 IT5/2 IT5 1.6
> 200 ถึง 500 n6 IT5/2 IT5 1.6
> 500 p7 IT6/2 IT6 3.2
แรงโหลดของวงแหวนในหยุดนิ่ง
การเคลื่อนที่แกนภายในไปข้างหน้าง่าย g64) IT5/2 IT5 1.6
การเคลื่อนที่แกนภายในไปข้างหน้าไม่จำเป็น h6 IT5/2 IT5 1.6
โหลดในแนวแกนเท่านั้น j6 IT5/2 IT5 1.6

ตารางพิกัดงานสวมสำหรับ "เพลา - ตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก เม็ดหมอน เม็ดโค้ง เม็ดเรียว (ที่รับแรงในแนวรัสมี Radial Load Bearings)"

เงื่อนไขการทำงาน เส้นผ่านศูนย์กลางของแกนเพลา (มม.) Tolerance Class ความคงที่สำหรับเพลาแนวนอน ความคงที่สำหรับเพลาแนวตั้ง Ra
µm
โหลดของแหวนแหวนในหมุนหรือทิศทางโหลดไม่แน่นอน
โหลดเบา (P ≤ 0.05 C) ≤ 25 j6 IT5/2 IT5 0.8
> 25 ถึง 60 k6 IT5/2 IT5 0.8
> 60 ถึง 140 m6 IT5/2 IT5 0.8
โหลดกลางถึงหนัก (0.05 C < P ≤ 0.1 C) ≤ 30 k6 IT5/2 IT5 0.8
> 30 ถึง 50 m5 IT5/2 IT5 0.8
> 50 ถึง 65 n5 IT5/2 IT5 0.8
> 65 ถึง 100 n6 IT5/2 IT5 0.8
> 100 ถึง 280 p6 IT5/2 IT5 1.6
> 280 ถึง 500 r6 IT5/2 IT5 1.6
> 500 r7 IT6/2 IT6 3.2
โหลดหนักมาก มีจุดพีคของโหลดที่สูงหรือการสภาวะการทำงานมีอุณหภูมิสูง (P > 0.1 C) > 50 ถึง 65 n5 IT5/2 IT5 0.8
> 65 ถึง 85 n6 IT5/2 IT5 0.8
> 85 ถึง 140 p6 IT5/2 IT5 0.8
> 140 ถึง 300 r6 IT5/2 IT5 1.6
> 300 ถึง 500 r6 + IT64) IT5/2 IT5 1.6
> 500 r7 + IT74) IT6/2 IT6 3.2
แรงโหลดของวงแหวนในหยุดนิ่ง
การเคลื่อนที่แกนภายในไปข้างหน้าง่าย g65) IT5/2 IT5 1.6
การเคลื่อนที่แกนภายในไปข้างหน้าไม่จำเป็น h6 IT5/2 IT5 1.6
โหลดในแนวแกนเท่านั้น j6 IT5/2 IT5 1.6

ตารางพิกัดงานสวมสำหรับ "เพลา - ตลับลูกปืนกันรุน (ที่รับแรงในแนวแกน Axial Load Bearings)"

เงื่อนไขการทำงาน เส้นผ่านศูนย์กลางของแกนเพลา (มม.) Tolerance Class ความคงที่สำหรับเพลาแนวนอน ความคงที่สำหรับเพลาแนวตั้ง Ra
µm
แรงโหลดในแนวแกนของตลับลูกปืนเม็ดกลมกันรุนเท่านั้น
h6 IT5/2 IT5 1.6
แรงโหลดรวมทั้งในแนวแกนและแนวรัสมี สำหรับตลับลูกปืนเม็ดโค้งกันรุนเท่านั้น
แรงโหลดหยุดนิ่งในทิศทางเดียว ได้ทั้งหมด j6 IT5/2 IT5 1.6
แรงโหลดหมุนตามทิศทาง ≤ 200 k6 IT5/2 IT5 1.6
แรงโหลดไม่สามารถคาดการณ์ได้ ไม่แน่นอน > 200 ถึง 400 m6 IT5/2 IT5 1.6
> 400 n6 IT5/2 IT5 1.6

 

3. ตารางการแกะ Tolerance Class ให้เป็นตัวเลขที่นำไปใช้ได้

เมื่อเราได้ Tolerance Class ที่เหมาะสมแล้ว จากขั้นตอนที่ 2 เราก็จะมาแกะกันว่า สรุปแล้วเพลาของเรา สามารถที่จะมีค่าความคาดเคลื่อน ได้เท่าไหร่กันแน่ (รอบวงของเพลา)

SKF ได้ทำตารางแกะ Tolerance Class นี้ โดยระบุว่า การคาดเคลื่อนมีถึง 2 เรื่องที่ต้องคำนึง ได้แก่:

  1. Shaft Tolerance: เราต้องรู้ก่อนว่าเพลาของเรามีค่าความคาดเคลื่อนรอบวงเท่าไหร่ เช่นเพลา 50 มิล รอบวงของเพลา อาจจะไม่ใช่ 50 มิลๆ จริงๆ ก็ได้ รอบวงของเพลา จะมีค่าความคาดเคลื่อน อาจจะเป็น 50.060 หรือ 49.938 ซึ่งเราจะต้องใช้ Micrometer ในการวัด
  2. Bearing Tolerance: ในกระบวนการผลิตของตลับลูกปืน SKF ก็เช่นเดียวกัน แต่ SKF จะมีมาตราฐานอยู่ว่าค่าความคาดเคลื่อนของตลับลูกปืนที่ผลิตออกมาจำหน่ายนั้น จะต้องไม่เกินเท่าไหร่ ในขนาดของลูกปืนแต่ละขนาด ดังนั้นค่าความ คาดเคลื่อนของตลับลูกปืน SKF สามารถดูได้จากตารางด้านล่างนี้ทันที

คราวนี้เราจะนำค่าความคาดเคลื่อนของเพลาและค่าความคาดเคลื่อนของตลับลูกปืน จาก Tolerance Class ที่คุณได้ มาหาค่าความคาดเคลื่อนที่อนุญาติได้สูงสุดของเพลาเป็นหน่วยไมครอน (µm)

ก่อนใช้ตาราง คุณอาจจะต้องทำความเข้าใจของความหมายเหล่านี้ก่อน:

  1. Deviations (shaft diameter) - ค่าความคาดเคลื่อนของเพลาของคุณ ห้ามต่ำกว่าหรือสูงกว่าตัวเลขในหน่วย (µm)
  2. Theoretical interference (–)/clearance (+) - ค่าความคาดเคลื่อนในการสวมในทางทฤษฎี ถ้าทั้งลูกปืนและเพลาอยู่ในจุดสูงสุดทั้งคู่ (µm)

ตารางการแกะ Tolerance Class จะถูกแยกดังนี้:

สำหรับเพลาสวมกับแหวนวงในลูกปืน:

  1. f5, f6, g5, g6, h5
  2. h6, h8, h9, j5, j6
  3. s4, js5, js6, js7, k4
  4. k5, k6, m5, m6, n5
  5. n6, p6, p7, r6, r7
  6. r6+IT6, r7+IT7

ตารางพิกัดความเผื่อเพลา f5, f6, g5, g6, h5

Shaft
Nominal diameter
Bearing
Bore diameter tolerance
Shaft diameter deviations, resultant fits
Tolerance classes
d tΔdmp f5 f6 g5 g6 h5
Deviations (shaft diameter)
Theoretical interference (–)/clearance (+)
over incl. low high Probable interference (–)/clearance (+)
mm µm µm
3 –8 0 –6 –10 –6 –12 –2 –6 –2 –8 0 –4
–2 +10 –2 +12 –6 +6 –6 +8 –8 +4
–1 +9 0 +10 –5 +5 –4 +6 –7 +3
3 6 –8 0 –10 –15 –10 –18 –4 –9 –4 –12 0 –5
+2 +15 +2 +18 –4 +9 –4 +12 –8 +5
+3 +14 +4 +16 –3 +8 –2 +10 –7 +4
6 10 –8 0 –13 –19 –13 –22 –5 –11 –5 –14 0 –6
+5 +19 +5 +22 –3 +11 –3 +14 –8 +6
+7 +17 +7 +20 –1 +9 –1 +12 –6 +4
10 18 –8 0 –16 –24 –16 –27 –6 –14 –6 –17 0 –8
+8 +24 +8 +27 –2 +14 –2 +17 –8 +8
+10 +22 +10 +25 0 +12 0 +15 –6 +6
18 30 –10 0 –20 –29 –20 –33 –7 –16 –7 –20 0 –9
+10 +29 +10 +33 –3 +16 –3 +20 –10 +9
+12 +27 +13 +30 –1 +14 0 +17 –8 +7
30 50 –12 0 –25 –36 –25 –41 –9 –20 –9 –25 0 –11
+13 +36 +13 +41 –3 +20 –3 +25 –12 +11
+16 +33 +17 +37 0 +17 +1 +21 –9 +8
50 80 –15 0 –30 –43 –30 –49 –10 –23 –10 –29 0 –13
+15 +43 +15 +49 –5 +23 –5 +29 –15 +13
+19 +39 +19 +45 –1 +19 –1 +25 –11 +9
80 120 –20 0 –36 –51 –36 –58 –12 –27 –12 –34 0 –15
+16 +51 +16 +58 –8 +27 –8 +34 –20 +15
+21 +46 +22 +52 –3 +22 –2 +28 –15 +10
120 180 –25 0 –43 –61 –43 –68 –14 –32 –14 –39 0 –18
+18 +61 +18 +68 –11 +32 –11 +39 –25 +18
+24 +55 +25 +61 –5 +26 –4 +32 –19 +12
180 250 –30 0 –50 –70 –50 –79 –15 –35 –15 –44 0 –20
+20 +70 +20 +79 –15 +35 –15 +44 –30 +20
+26 +64 +28 +71 –9 +29 –7 +36 –24 +14
250 315 –35 0 –56 –79 –56 –88 –17 –40 –17 –49 0 –23
+21 +79 +21 +88 –18 +40 –18 +49 –35 +23
+29 +71 +30 +79 –10 +32 –9 +40 –27 +15
315 400 –40 0 –62 –87 –62 –98 –18 –43 –18 –54 0 –25
+22 +87 +22 +98 –22 +43 –22 +54 –40 +25
+30 +79 +33 +87 –14 +35 –11 +43 –32 +17
400 500 –45 0 –68 –95 –68 –108 –20 –47 –20 –60 0 –27
+23 +95 +23 +108 –25 +47 –25 +60 –45 +27
+32 +86 +35 +96 –16 +38 –13 +48 –36 +18
500 630 –50 0 –76 –104 –76 –120 –22 –50 –22 –66 0 –28
+26 +104 +26 +120 –28 +50 –28 +66 –50 +28
+36 +94 +39 +107 –18 +40 –15 +53 –40 +18
630 800 –75 0 –80 –112 –80 –130 –24 –56 –24 –74 0 –32
+5 +112 +5 +130 –51 +56 –51 +74 –75 +32
+17 +100 +22 +113 –39 +44 –34 +57 –63 +20
800 1 000 –100 0 –86 –122 –86 –142 –26 –62 –26 –82 0 –36
–14 +122 –14 +142 –74 +62 –74 +82 –100 +36
0 +108 +6 +122 –60 +48 –54 +62 –86 +22
1 000 1 250 –125 0 –98 –140 –98 –164 –28 –70 –28 –94 0 –42
–27 +140 –27 +164 –97 +70 –97 +94 –125 +42
–10 +123 –3 +140 –80 +53 –73 +70 –108 +25
1 250 1 600 –160 0 –110 –160 –110 –188 –30 –80 –30 –108 0 –50
–50 +160 –50 +188 –130 +80 –130 +108 –160 +50
–29 +139 –20 +158 –109 +59 –100 +78 –139 +29
1 600 2 000 –200 0 –120 –180 –120 –212 –32 –92 –32 –124 0 –60
–80 +180 –80 +212 –168 +92 –168 +124 –200 +60
–55 +155 –45 +177 –143 +67 –133 +89 –175 +35

 

ตารางพิกัดความเผื่อเพลา h6, h8, h9, j5, j6

Shaft
Nominal diameter
Bearing
Bore diameter tolerance
Shaft diameter deviations, resultant fits
Tolerance classes
d tΔdmp h6 h8 h9 j5 j6
Deviations (shaft diameter)
Theoretical interference (–)/clearance (+)
> L U Probable interference (–)/clearance (+)
mm µm µm
3 –8 0 0 –6 0 –14 0 –25 +2 –2 +4 –2
–8 +6 –8 +14 –8 +25 –10 +2 –12 +2
–6 +4 –6 +12 –5 +22 –9 +1 –10 0
3 6 –8 0 0 –8 0 –18 0 –30 +3 –2 +6 –2
–8 +8 –8 +18 –8 +30 –11 +2 –14 +2
–6 +6 –5 +15 –5 +27 –10 +1 –12 0
6 10 –8 0 0 –9 0 –22 0 –36 +4 –2 +7 –2
–8 +9 –8 +22 –8 +36 –12 +2 –15 +2
–6 +7 –5 +19 –5 +33 –10 0 –13 0
10 18 –8 0 0 –11 0 –27 0 –43 +5 –3 +8 –3

 

ตารางพิกัดความเผื่อเพลา s4, js5, js6, js7, k4

Shaft
Nominal diameter
Bearing
Bore diameter tolerance
Shaft diameter deviations, resultant fits
Tolerance classes
d tΔdmp js4 js5 js6 js7 k4
Deviations (shaft diameter)
Theoretical interference (–)/clearance (+)
over incl. low high Probable interference (–)/clearance (+)
mm µm µm
3 –8 0 +1,5 –1,5 +2 –2 +3 –3 +5 –5 +3 0
–9,5 +1,5 –10 +2 –11 +3 –13 +5 –11 0
–8,5 +0,5 –9 +1 –9 +1 –11 +3 –10 –1
3 6 –8 0 +2 –2 +2,5 –2,5 +4 –4 +6 –6 +5 +1
–10 +2 –10,5 +2,5 –12 +4 –14 +6 –13 –1
–9 +1 –9 +1 –10 +2 –12 +4 –12 –2
6 10 –8 0 +2 –2 +3 –3 +4,5 –4,5 +7,5 –7,5 +5 +1
–10 +2 –11 +3 –12,5 +4,5 –15,5 +7,5 –13 –1
–9 +1 –9 +1 –11 +3 –13 +5 –12 –2
10 18 –8 0 +2,5 –2,5 +4 –4 +5,5 –5,5 +9 –9 +6 +1
–10,5 +2,5 –12 +4 –13,5 +5,5 –17 +9 –14 –1
–9,5 +1,5 –10 +2 –11 +3 –14 +6 –13 –2
18 30 –10 0 +3 –3 +4,5 –4,5 +6,5 –6,5 +10,5 –10,5 +8 +2
–13 +3 –14,5 +4,5 –16,5 +6,5 –20,5 +10,5 –18 –2
–10,5 +1,5 –12 +2 –14 +4 –17 +7 –16 –4
30 50 –12 0 +3,5 –3,5 +5,5 –5,5 +8 –8 +12,5 –12,5 +9 +2
–15,5 +3,5 –17,5 +5,5 –20 +8 –24,5 +12,5 –21 –2
–13,5 +1,5 –15 +3 –16 +4 –20 +8 –19 –4
50 80 –15 0 +4 –4 +6,5 –6,5 +9,5 –9,5 +15 –15 +10 +2
–19 +4 –21,5 +6,5 –24,5 +9,5 –30 +15 –25 –2
–15,5 +1,5 –18 +3 –20 +5 –25 +10 –22 –5
80 120 –20 0 +5 –5 +7,5 –7,5 +11 –11 +17,5 –17,5 +13 +3
–25 +5 –27,5 +7,5 –31 +11 –37,5 +17,5 –33 –3
–22 +2 –23 +3 –25 +5 –31 +11 –30 –6
120 180 –25 0 +6 –6 +9 –9 +12,5 –12,5 +20 –20 +15 +3
–31 +6 –34 +9 –37,5 +12,5 –45 +20 –40 –3
–27 +2 –28 +3 –31 +6 –37 +12 –36 –7
180 250 –30 0 +7 –7 +10 –10 +14,5 –14,5 +23 –23 +18 +4
–37 +7 –40 +10 –44,5 +14,5 –53 +23 –48 –4
–32 +2 –34 +4 –36 +6 –43 +13 –43 –9
250 315 –35 0 +8 –8 +11,5 –11,5 +16 –16 +26 –26 +20 +4
–4 +8 –46,5 +11,5 –51 +16 –61 +26 –55 –4
–37 +2 –39 +4 –42 +7 –49 +14 –49 –10
315 400 –40 0 +9 –9 +12,5 –12,5 +18 –18 +28,5 –28,5 +22 +4
–49 +9 –52,5 +12,5 –58 +18 –68,5 +28,5 –62 –4
–42 +2 –44 +4 –47 +7 –55 +15 –55 –11
400 500 –45 0 +10 –10 +13,5 –13,5 +20 –20 +31,5 –31,5 +25 +5
–55 +10 –58,5 +13,5 –65 +20 –76,5 +31,5 –70 –5
–48 +3 –49 +4 –53 +8 –62 +17 –63 –12
500 630 –50 0 +14 –14 +22 –22 +35 –35
–64 +14 –72 +22 –85 +35
–54 +4 –59 +9 –69 +19
630 800 –75 0 +16 –16 +25 –25 +40 –40
–91 +16 –100 +25 –115 +40
–79 +4 –83 +8 –93 +18
800 1 000 –100 0 +18 –18 +28 –28 +45 –45
–118 +18 –128 +28 –145 +45
–104 +4 –108 +8 –118 +18
1 000 1 250 –125 0 +21 –21 +33 –33 +52 –52
–146 +21 –158 +33 –177 +52
–129 +4 –134 +9 –145 +20
1 250 1 600 –160 0 +25 –25 +39 –39 +62 –62
–185 +25 –199 +39 –222 +62
–164 +4 –169 +9 –182 +22
1 600 2 000 –200 0 +30 –30 +46 –46 +75 –75
–230 +30 –246 +46 –275 +75
–205 +5 –211 +11 –225 +25

ตารางพิกัดความเผื่อเพลา k5, k6, m5, m6, n5

Shaft
Nominal diameter
Bearing
Bore diameter tolerance
Shaft diameter deviations, resultant fits
Tolerance classes
d tΔdmp k5 k6 m5 m6 n5
Deviations (shaft diameter)
Theoretical interference (–)
> L U Probable interference (–)
mm µm µm
3 –8 0 +4 0 +6 0 +6 +2 +8 +2 +8 +4
–12 0 –14 0 –14 –2 –16 –2 –16 –4
–11 –1 –12 –2 –13 –3 –14 –4 –15 –5
3 6 –8 0 +6 +1 +9 +1 +9 +4 +12 +4 +13 +8
–14 –1 –17 –1 –17 –4 –20 –4 –21 –8
–13 –2 –15 –3 –16 –5 –18 –6 –20 –9
6 10 –8 0 +7 +1 +10 +1 +12 +6 +15 +6 +16 +10
–15 –1 –18 –1 –20 –6 –23 –6 –24 –10
–13 –3 –16 –3 –18 –8 –21 –8 –22 –12
10 18 –8 0 +9 +1 +12 +1 +15 +7 +18 +7 +20 +12
–17 –1 –20 –1 –23 –7 –26 –7 –28 –12
–15 –3 –18 –3 –21 –9 –24 –9 –26 –14
18 30 –10 0 +11 +2 +15 +2 +17 +8 +21 +8 +24 +15
–21 –2 –25 –2 –27 –8 –31 –8 –34 –15
–19 –4 –22 –5 –25 –10 –28 –11 –32 –17
30 50 –12 0 +13 +2 +18 +2 +20 +9 +25 +9 +28 +17
–25 –2 –30 –2 –32 –9 –37 –9 –40 –17
–22 –5 –26 –6 –29 –12 –33 –13 –37 –20
50 80 –15 0 +15 +2 +21 +2 +24 +11 +30 +11 +33 +20
–30 –2 –36 –2 –39 –11 –45 –11 –48 –20
–26 –6 –32 –6 –35 –15 –41 –15 –44 –24
80 120 –20 0 +18 +3 +25 +3 +28 +13 +35 +13 +38 +23
–38 –3 –45 –3 –48 –13 –55 –13 –58 –23
–33 –8 –39 –9 –43 –18 –49 –19 –53 –28
120 180 –25 0 +21 +3 +28 +3 +33 +15 +40 +15 +45 +27
–46 –3 –53 –3 –58 –15 –65 –15 –70 –27
–40 –9 –46 –10 –52 –21 –58 –22 –64 –33
180 250 –30 0 +24 +4 +33 +4 +37 +17 +46 +17 +51 +31
–54 –4 –63 –4 –67 –17 –76 –17 –81 –31
–48 –10 –55 –12 –61 –23 –68 –25 –75 –37
250 315 –35 0 +27 +4 +36 +4 +43 +20 +52 +20 +57 +34
–62 –4 –71 –4 –78 –20 –87 –20 –92 –34
–54 –12 –62 –13 –70 –28 –78 –29 –84 –42
315 400 –40 0 +29 +4 +40 +4 +46 +21 +57 +21 +62 +37
–69 –4 –80 –4 –86 –21 –97 –21 –102 –37
–61 –12 –69 –15 –78 –29 –86 –32 –94 –45
400 500 –45 0 +32 +5 +45 +5 +50 +23 +63 +23 +67 +40
–77 –5 –90 –5 –95 –23 –108 –23 –112 –40
–68 –14 –78 –17 –86 –32 –96 –35 –103 –49
500 630 –50 0 +29 0 +44 0 +55 +26 +70 +26 +73 +44
–78 0 –94 0 –105 –26 –120 –26 –122 –44
–68 –10 –81 –13 –94 –36 –107 –39 –112 –54
630 800 –75 0 +32 0 +50 0 +62 +30 +80 +30 +82 +50
–107 0 –125 0 –137 –30 –155 –30 –157 –50
–95 –12 –108 –17 –125 –42 –138 –47 –145 –62
800 1 000 –100 0 +36 0 +56 0 +70 +34 +90 +34 +92 +56
–136 0 –156 0 –170 –34 –190 –34 –192 –56
–122 –14 –136 –20 –156 –48 –170 –54 –178 –70
1 000 1 250 –125 0 +42 0 +66 0 +82 +40 +106 +40 +108 +66
–167 0 –191 0 –207 –40 –231 –40 –233 –66
–150 –17 –167 –24 –190 –57 –207 –64 –216 –83
1 250 1 600 –160 0 +50 0 +78 0 +98 +48 +126 +48 +128 +78
–210 0 –238 0 –258 –48 –286 –48 –288 –78
–189 –21 –208 –30 –237 –69 –256 –78 –267 –99
1 600 2 000 –200 0 +60 0 +92 0 +118 +58 +150 +58 +152 +92
–260 0 –292 0 –318 –58 –350 –58 –352 –92
–235 –25 –257 –35 –293 –83 –315 –93 –327 –117

 

ตารางพิกัดความเผื่อเพลา n6, p6, p7, r6, r7

Shaft
Nominal diameter
Bearing
Bore diameter tolerance
Shaft diameter deviations, resultant fits1)
Tolerance classes
d tΔdmp n6 p6 p7 r6 r7
Deviations (shaft diameter)
Theoretical interference (–)/clearance (+)
over incl. low high Probable interference (–)
mm µm µm
50 80 –15 0 +39 +20 +51 +32 +62 +32
–54 –20 –66 –32 –77 –32
–50 –24 –62 –36 –72 –38
80 100 –20 0 +45 +23 +59 +37 +72 +37 +73 +51 +86 +51
–65 –23 –79 –37 –92 –37 –93 –51 –106 –51
–59 –29 –73 –43 –85 –44 –87 –57 –99 –58
100 120 –20 0 +45 +23 +59 +37 +72 +37 +76 +54 +89 +54
–65 –23 –79 –37 –92 –37 –96 –54 –109 –54
–59 –29 –73 –43 –85 –44 –90 –60 –102 –61
120 140 –25 0 +52 +27 +68 +43 +83 +43 +88 +63 +103 +63
–77 –27 –93 –43 –108 –43 –113 –63 –128 –63
–70 –34 –86 –50 –100 –51 –106 –70 –120 –71
140 160 –25 0 +52 +27 +68 +43 +83 +43 +90 +65 +105 +65
–77 –27 –93 –43 –108 –43 –115 –65 –130 –65
–70 –34 –86 –50 –100 –51 –108 –72 –122 –73
160 180 –25 0 +52 +27 +68 +43 +83 +43 +93 +68 +108 +68
–77 –27 –93 –43 –108 –43 –118 –68 –133 –68
–70 –34 –86 –50 –100 –51 –111 –75 –125 –76
180 200 –30 0 +60 +31 +79 +50 +96 +50 +106 +77 +123 +77
–90 –31 –109 –50 –126 –50 –136 –77 –153 –77
–82 –39 –101 –58 –116 –60 –128 –85 –143 –87
200 225 –30 0 +60 +31 +79 +50 +96 +50 +109 +80 +126 +80
–90 –31 –109 –50 –126 –50 –139 –80 –156
–82 –39 –101 –58 –116 –60 –131 –88 –146 –90
225 250 –30 0 +60 +31 +79 +50 +96 +50 +113 +84 +130 +84
–90 –31 –109 –50 –126 –50 –143 –84 –160 –84
–82 –39 –101 –58 –116 –60 –135 –92 –150 –94
250 280 –35 0 +66 +34 +88 +56 +108 +56 +126 +94 +146 +94
–101 –34 –123 –56 –143 –56 –161 –94 –181 –94
–92 –43 –114 –65 –131 –68 –152 –103 –169 –106
280 315 –35 0 +66 +34 +88 +56 +108 +56 +130 +98 +150 +98
–101 –34 –123 –56 –143 –56 –165 –98 –185 –98
–92 –43 –114 –65 –131 –68 –156 –107 –173 –110
315 355 –40 0 +73 +37 +98 +62 +119 +62 +144 +108 +165 +108
–113 –37 –138 –62 –159 –62 –184 –108 –205 –108
–102 –48 –127 –73 –146 –75 –173 –119 –192 –121
355 400 –40 0 +73 +37 +98 +62 +119 +62 +150 +114 +171 +114
–113 –37 –138 –62 –159 –62 –190 –114 –211 –114
–102 –48 –127 –73 –146 –75 –179 –125 –198 –127
400 450 –45 0 +80 +40 +108 +68 +131 +68 +166 +126 +189 +126
–125 –40 –153 –68 –176 –68 –211 –126 –234 –126
–113 –52 –141 –80 –161 –83 –199 –138 –219 –141
450 500 –45 0 +80 +40 +108 +68 +131 +68 +172 +132 +195 +132
–125 –40 –153 –68 –176 –68 –217 –132 –240 –132
–113 –52 –141 –80 –161 –83 –205 –144 –225 –147
500 560 –50 0 +88 +44 +122 +78 +148 +78 +194 +150 +220 +150
–138 –44 –172 –78 –198 –78 –244 –150 –270 –150
–125 –57 –159 –91 –182 –94 –231 –163 –254 –166
560 630 –50 0 +88 +44 +122 +78 +148 +78 +199 +155 +225 +155
–138 –44 –172 –78 –198 –78 –249 –155 –275 –155
–125 –57 –159 –91 –182 –94 –236 –168 –259 –171
630 710 –75 0 +100 +50 +138 +88 +168 +88 +225 +175 +255 +175
–175 –50 –213 –88 –243 –88 –300 –175 –330 –175
–158 –67 –196 –105 –221 –110 –283 –192 –308 –197
710 800 –75 0 +100 +50 +138 +88 +168 +88 +235 +185 +265 +185
–175 –50 –213 –88 –243 –88 –310 –185 –340 –185
–158 –67 –196 –105 –221 –110 –293 –202 –318 –207
800 900 –100 0 +112 +56 +156 +100 +190 +100 +266 +210 +300 +210
–212 –56 –256 –100 –290 –100 –366 –210 –400 –210
–192 –76 –236 –120 –263 –127 –346 –230 –373 –237
900 1 000 –100 0 +112 +56 +156 +100 +190 +100 +276 +220 +310 +220
–212 –56 –256 –100 –290 –100 –376 –220 –410 –220
–192 –76 –236 –120 –263 –127 –356 –240 –383 –247
1 000 1 120 –125 0 +132 +66 +186 +120 +225 +120 +316 +250 +355 +250
–257 –66 –311 –120 –350 –120 –441 –250 –480 –250
–233 –90 –287 –144 –317 –153 –417 –274 –447 –283
1 120 1 250 –125 0 +132 +66 +186 +120 +225 +120 +326 +260 +365 +260
–257 –66 –311 –120 –350 –120 –451 –260 –490 –260
–233 –90 –287 –144 –317 –153 –427 –284 –457 –293
1 250 1 400 –160 0 +156 +78 +218 +140 +265 +140 +378 +300 +425 +300
–316 –78 –378 –140 –425 –140 –538 –300 –585 –300
–286 –108 –348 –170 –385 –180 –508 –330 –545 –340
1 400 1 600 –160 0 +156 +78 +218 +140 +265 +140 +408 +330 +455 +330
–316 –78 –378 –140 –425 –140 –568 –330 –615 –330
–286 –108 –348 –170 –385 –180 –538 –360 –575 –370
1 600 1 800 –200 0 +184 +92 +262 +170 +320 +170 +462 +370 +520 +370
–384 –92 –462 –170 –520 –170 –662 –370 –720 –370
–349 –127 –427 –205 –470 –220 –627 –405 –670 –420
1 800 2 000 –200 0 +184 +92 +262 +170 +320 +170 +492 +400 +550 +400
–384 –92 –462 –170 –520 –170 –692 –400 –750 –400
–349 –127 –427 –205 –470 –220 –657 –435 –700 –450

 

ตารางพิกัดความเผื่อเพลา r6+IT6, r7+IT7

Shaft
Nominal diameter
Bearing
Bore diameter tolerance
Shaft diameter deviations, resultant fits
Tolerance classes
d tΔdmp r6+IT6 r7+IT7
Deviations (shaft diameter)
Theoretical interference (–)
over incl. low high Probable interference (–)
mm µm µm
315 355 –40 0 +180 +144 +222 +165
–220 –144 –262 –165
–209 –155 –248 –179
355 400 –40 0 +186 +150 +228 +171
–226 –150 –268 –171
–215 –161 –254 –185
400 450 –45 0 +206 +166 +252 +189
–251 –166 –297 –189
–239 –178 –282 –204
450 500 –45 0 +212 +172 +258 +195
–257 –172 –303 –195
–245 –184 –288 –210
500 560 –50 0 +238 +194 +290 +220
–288 –194 –340 –220
–274 –208 –323 –237
560 630 –50 0 +243 +199 +295 +225
–293 –199 –345 –225
–279 –213 –328 –242
630 710 –75 0 +275 +225 +335 +255
–350 –225 –410 –255
–333 –242 –387 –278
710 800 –75 0 +285 +235 +345 +265
–360 –235 –420 –265
–343 –252 –397 –288
800 900 –100 0 +322 +266 +390 +300
–422 –266 –490 –300
–401 –287 –462 –328
900 1 000 –100 0 +332 +276 +400 +310
–432 –276 –500 –310
–411 –297 –472 –338
1 000 1 120 –125 +382 +316 +460 +355
–507 –316 –585 –355
–482 –341 –552 –388
1 120 1 250 –125 0 +392 +326 +470 +365
–517 –326 –595 –365
–492 –351 –562 –398
1 250 1 400 –160 0 +456 +378 +550 +425
–616 –378 –710 –425
–586 –408 –669 –466
1 400 1 600 –160 0 +486 +408 +580 +455
–646 –408 –740 –455
–616 –438 –699 –496
1 600 1 800 –200 0 +554 +462 +670 +520
–754 –462 –870 –520
–718 –498 –820 –570
1 800 2 000 –200 0 +584 +492 +700 +550
–784 –492 –900 –550
–748 –528 –850 –600

 


จารบีทนความร้อนยี่ห้อไหนดี

8 อันดับ จารบีทนความร้อนสูงยี่ห้อไหนดี ? (ล่าสุด 2025)

จารบีทนความร้อนสูงยี่ห้อไหนดี? การใช้งานจารบีก็มีความแตกต่างกันออกไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเป็นการช่วยหล่อลื่น การช่วยลดแรงเสียดทาน การช่วยชะลอการสึกกร่อนของอุปกรณ์ต่างๆ หรือยังเป็นตัวช่วยในการป้องกันสนิมอีกด้วย ในท้องตลาดปัจจุบันมีจารบีมากมายหลากหลายยี่ห้อมาวางจำหน่ายเราจะเลือกจารบีแบบไหนมาใช้ดีวันนี้เรา จึงรวบรวมจารบีหลากหลายยี่ห้อมาแนะนำ

สารบัญ

วิธีการเลือกใช้จารบีทนความร้อนสูง

วิธีการเลือกใช้ จารบีทนความร้อนสูง ให้เหมาะกับความต้องการในการใช้งาน โดยทางเราได้รวบรวมวิธีการเลือกใช้จารบีให้ถูกต้องกับลักษณะงาน เผื่อว่าท่านใดกำลังจะเลือกใช้จาระบีแต่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดีวันนี้เราจึงมาแนะนำให้เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานมากที่สุด

Base Oils (ชนิดของน้ำมันที่ใช้)

ชนิดของน้ำมันที่หรือส่วนประกอบหลักของเนื้อจารบีมีผลกับการรองรับอุณภูมิระหว่างการทำงาน

Base Oil อุณหภูมิการทำงาน (C)
High-quality hydrocarbons 280-320
Di-Esters 275
Polyolesters 315
Polyglycols 220
Phosphate Esters 420
Silicones 315-370
Silicates 345-450
Polyphenol Ethers 440-485
Perfluoropolyalkyl Ethers (PFPAE) 360-390

Thickeners (สารทำความข้น / ประเภทสบู่ที่ใช้)

ชนิดของสารทำความข้นมีผลกับความหนืดของเนื้อจารบี ซึ่งจะทำให้จารบีมีจุดหยดที่สูงขึ้นได้เมื่อหนืดขึ้น

ชนิดของ Thickener Dropping point (จุดหยด)°C
Lithium Complex 250-320
Sodium Complex 240-260
PTFE 230-300
Calcium Complex 225-250
Aluminum Complex 200-260

Additives (ส่วนผสมเพิ่มเติม)

ชนิดของส่วนผสมเพิ่มเติมจะสามารถปรับปรุงคุณสมบัติของน้ำมันพื้นฐานที่มีอยู่ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารยับยั้งการกัดกร่อน สารต้านการเกิดฟอง และสารลดการแยกตัว

อุณหภูมิการทำงานและจุดหยด (Operating Temperature & Dropping Point)

อีกสิ่งที่ควรรู้ว่าจารบีแต่ละตัวมีคุณสมบัติเพียงพอที่คุณจะนำไปใช้กับงานของคุณหรือไม่ ก็คืออุณหภูมิการทำงานและจุดหยดของเนื้อจารบี การที่เรารู้ว่าจารบีของเราสามารถทนสภาวะความร้อนได้กี่องศา จะทำให้รู้ว่าจารบีชนิดนั้นๆ เหมาะกับงานของเราหรือไม่ อย่างไรก็ตาม แต่ละยี่ห้ออาจจะใช้ค่าวัดหรือสภาวะการวัดที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการที่ตัวสเปคของจารบีแต่ละยี่ห้อเขียนสเปคว่าทนอุณหภูมิได้สูงมาก อาจจะไม่ได้สูงอย่างที่โฆษณาก็เป็นไปได้

แนะนำจารบีทนความร้อนสูง 8 ยี่ห้อยอดฮิตในท้องตลาด (ไม่เรียงอันดับ)

วันนี้เรา จึงขอมาแนะนำ 8 อันดับ จารบีทนความร้อนสูงยี่ห้อไหนดี เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้จารบีได้ตรงตามลักษณะความต้องการในการใช้งานอย่างถูกต้อง ซึ่งจารบีที่วางขายในท้องตลาดนั้นก็มีหลากหลายยี่ห้อและหลากหลายรูปแบบโดยมีให้เลือกทั้งแบบกระป๋อง แบบบีบหรือที่ใส่กระบอกอัด วันนี้เราจะมาแนะนำให้ว่าจะมียี่ห้อไหนที่น่าใช้บ้าง

ตารางสรุป: 8 อันดับ จารบีทนความร้อนสูงยี่ห้อไหนดี? (แบบไม่เรียงอันดับ)

SKF LGHP 2 Trane Super HT Mobilux EP 2 Tiger Rich TG-19 Hi-Temp Poly-Urea Grease Shell Gadus S3 V460D 2 PTT LI-PLEX GREASE NLGI 2 Bangjak Complex EP 2 Castrol High Temperature Grease
รูปสินค้า top 8 grease-8 top 8 grease-3 top 8 grease-7 top 8 grease-5 top 8 grease-4 top 8 grease-6 top 8 grease-2 top 8 grease-1
อุณหภูมิการทำงาน °C -40 ถึง 150 275 -20 ถึง 130 -20 ถึง 250 -20 ถึง 140 180 -10 ถึง 165 -30 ถึง 140
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C - 300 - - 150 - 185 -
Dropping Point (จุดหยด) °C 240 310 190 320 240 293 260 260
สี เหลืองใส น้ำเงิน - เหลือง-น้ำตาล ดำ น้ำเงิน เหลือง น้ำตาล
NGLI 2 3 2 2 2 2 2 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil - Lithium Mineral oil Mineral oil Mineral oil Mineral oil Mineral oil
สารทำความข้น สบู่ Di–urea - - Poly-Urea Lithium complex Lithium complex Lithium complex Lithium complex
ราคา
  • 1,114 บาท(หลอด 1 กก.)
  • 5,269 บาท (ถัง 5 กก.)
  • 16,674 บาท (ถัง 18 กก.)
  • 350 บาท (หลอด 1 กก.)
  • 1,050 บาท (ถัง 5 กก.)
  • 1,850 (ถัง 10 กก.)
  • 2,990 บาท (ถัง 16 กก.)
  • 3,100 บาท (ถัง 10 กก.)
  • 890 บาท (หลอด 1 กก.)
  • 3,750 บาท (ถัง 5 กก.)
  • 10,000 บาท (ถัง 15 กก.)
  • 9,000 บาท (ถัง 18 กก.)
  • 700 บาท (ถัง 2 กก.)
  • 4,000 บาท (ถัง 15 กก.)
  • 4,300 บาท (ถัง 15 กก.)
  • 7,700 บาท (ถัง 15 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

 

รายละเอียด: 8 อันดับ จารบีทนความร้อนสูงยี่ห้อไหนดี? (แบบไม่เรียงอันดับ)

1. SKF LGHP 2

top 8 grease-8

ตัวนี้เป็นจารบีทนความร้อนที่ใช้บำรุงรักษาเครื่องจักรโดยเป็นจารบีเกรดพรีเมี่ยมมีการคงสภาพการใช้งานของสารหล่อลื่นได้เป็นอย่างดีในขณะใช้งาน โดยสามารถรองรับคุณภูมิได้ต่ำสุดตั้งแต่ -40 °C และทนความร้อนสูงสุดได้มากกว่า 150 °C สามารถนำไปใช้กับเครื่องจักรได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่

อุณหภูมิการทำงาน °C -40 ถึง 150
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C -
Dropping Point (จุดหยด) °C 240
สี น้ำเงิน
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil
สารทำความข้น สบู่ Di–urea
ราคา

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

2. Trane Super HT

top 8 grease-3

จารบีเหลวตัวนี้บอกเลยว่าเป็นสุดยอดจารบีที่ได้รับความนิยมในหมู่อุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก เนื่องจากว่าตัวกระบี่สามารถใช้กับเครื่องจักรกลที่สามารถทำงานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานานได้ ใช้ป้องกันการสึกกร่อนและการเสียดสีของข้อต่อหมุนในขณะทำงานของเครื่องจักร รับแรงกดแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี โดยจารบีตัวนี้สามารถทนความร้อนสูงสุดได้ถึง 275-300 °C เลยทีเดียว

Trane Super HT
อุณหภูมิการทำงาน °C
275
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
300
Dropping Point (จุดหยด) °C 310
สี เหลืองใส
NGLI 3
น้ำมันที่ใช้ -
สารทำความข้น สบู่
-
ราคา
  • 350 บาท (หลอด 1 กก.)
  • 1,050 บาท (ถัง 5 กก.)
  • 1,850 (ถัง 10 กก.)
  • 2,990 บาท (ถัง 16 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

3. Mobilux EP 2

top 8 grease-7

จารบีทนความร้อนเป็นอีกหนึ่งตัวที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก โดยตัวนี้จะได้รับการผสมสูตรพิเศษเพื่อป้องกันการสึกหรอที่ดีมากยิ่งขึ้นและป้องกันการเกิดสนิมและการชะล้างด้วยน้ำ สามารถนำไปใช้กับเครื่องจักรได้ทุกประเภท โดยจารบีตัวนี้สามารถทนอุณหภูมิต่ำสุดได้อยู่ที่ -20 °C สามารถทนอุณหภูมิสูงสุดได้ถึง 130 °Cเลยทีเดียว ตัวนี้สามารถใช้ในอุณหภูมิที่สูงกว่ากำหนดได้หากมีการเพิ่มความถี่ในการอัดจารบีเพิ่มขึ้นไป

Mobilux EP 2
อุณหภูมิการทำงาน °C
-20 ถึง 130
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
-
Dropping Point (จุดหยด) °C 190
สี -
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Lithium
สารทำความข้น สบู่
-
ราคา
  • 3,100 บาท (ถัง 10 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

4. Tiger Rich TG-19 Hi-Temp Poly-Urea Grease

top 8 grease-5

จารบีทนความร้อนสูงที่นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นอย่างมากสามารถใช้งานได้อเนกประสงค์ เลยตัวนี้เป็นจารบีที่พัฒนามาปรับใช้กับเครื่องจักรที่มีรอบความเร็วสูงทำให้ทนทานต่อแรงเฉือนได้เป็นอย่างดี เป็นสารหล่อลื่นที่ดีไม่มีเขม่าและไม่มีกาก ตัวจารบีตัวนี้สามารถทนอุณหภูมิต่ำสุดได้ถึง -25 °C และสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 200 °Cเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นจารบีทนความร้อนที่ใช้งานได้รอบด้าน

Tiger Rich TG-19 Hi-Temp Poly-Urea Grease
อุณหภูมิการทำงาน °C
-20 ถึง 250
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
-
Dropping Point (จุดหยด) °C 320
สี เหลือง-น้ำตาล
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil
สารทำความข้น สบู่
Poly-Urea
ราคา
  • 890 บาท (หลอด 1 กก.)
  • 3,750 บาท (ถัง 5 กก.)
  • 10,000 บาท (ถัง 15 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

5. Shell Gadus S3 V460D 2

top 8 grease-4

จารบีคุณภาพสูงสำหรับตัวนี้มีความทนทานต่อความร้อนได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว มีการพัฒนาผสมผสานสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยรับแล้งการกดสูง ช่วยลดการสึกหรอและการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เหมาะกับใช้ในงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเครื่องจักรที่ทำการหล่อลื่นไม่ว่าจะเป็นแบริ่งหรือเครื่องจักรกลต่างๆ นอกจากนี้ตัวจารบียังทนในสภาวะเปียกชื้นได้อีกด้วย โดยจารบีตัวนี้สามารถทนอุณหภูมิต่ำสุดได้อยู่ที่ -20 °C และสามารถทนอุณหภูมิสูงสุดได้ถึง 140 °C เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในจารบีเกรดพรีเมี่ยมที่ดีอีกตัวเลยก็ว่าได้

Shell Gadus S3 V460D 2
อุณหภูมิการทำงาน °C
-20 ถึง 140
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
150
Dropping Point (จุดหยด) °C 240
สี ดำ
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil
สารทำความข้น สบู่
Lithium complex
ราคา
  • 9,000 บาท (ถัง 18 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

6. PTT LI-PLEX GREASE NLGI 2

top 8 grease-6

จารบีที่มีคุณภาพสูงโดยตัวนี้ผลิตจากสบู่ลิเธียมคอมเพล็กซ์และมีการเพิ่มสารพิเศษทำให้มีคุณภาพดีมากยิ่งขึ้น สามารถรับแรงกดได้สูง ทนความร้อนได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยจาระบีตัวนี้นิยมใช้เป็นสารหล่อลื่นในเครื่องจักรอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นตลับลูกปืนเครื่องบด ตลับลูกปืนล้อรถและเครื่องจักรกลในรูปแบบต่างๆ โดย สามารถทนอุณหภูมิความร้อนได้สูงสุดถึง 180 °C เลยทีเดียว

PTT LI-PLEX GREASE NLGI 2
อุณหภูมิการทำงาน °C
180
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
-
Dropping Point (จุดหยด) °C 293
สี น้ำเงิน
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil
สารทำความข้น สบู่
Lithium complex
ราคา
  • 700 บาท (ถัง 2 กก.)
  • 4,000 บาท (ถัง 15 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

7. Bangjak Complex EP 2

top 8 grease-2

จารบีที่สามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดีมีการออกแบบมาสำหรับใช้งานหนัก หรือจารบีตัวนี้สามารถรับแรงกระแทกและแรงกดดันสูงได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยลดการสึกหรอของเครื่องจักรในการทำงานได้เป็นอย่างดีที่สำคัญยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนได้อีกด้วย โดยจะระบุตัวนี้ปราศจากสารตะกั่วและคลอรีนที่นำมาเป็นส่วนประกอบ โดยจารบีตัวนี้ทนอุณหภูมิต่ำสุดได้อยู่ที่ -10 °C และทนความร้อนที่อุณหภูมิสูงสุดได้ที่ 165 °C

Bangjak Complex EP 2
อุณหภูมิการทำงาน °C
-10 ถึง 165
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
185
Dropping Point (จุดหยด) °C 260
สี เหลือง
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil
สารทำความข้น สบู่
Lithium complex
ราคา
  • 4,300 บาท (ถัง 15 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

8. Castrol High Temperature Grease

top 8 grease-1

จารบีทนความร้อนสูงสำหรับตัวนี้เป็นจารบีที่สามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เป็นจารบีที่ถูกพัฒนาโดยมีส่วนผสมของน้ำมันแร่คุณภาพและมีเทคโนโลยีที่เพิ่มความเข้มข้นของตัวจารบีเข้มข้นเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลายมีความเสถียรทางด้านการทนความร้อนเป็นอย่างมาก โดยจารบีตัวนี้ทนอุณหภูมิต่ำสุดได้ที่ -30 °C และสามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 140 °C

Castrol High Temperature Grease
อุณหภูมิการทำงาน °C
-30 ถึง 140
อุณหถูมิสูงสุด (ชั่วขณะ) °C
-
Dropping Point (จุดหยด) °C 260
สี น้ำตาล
NGLI 2
น้ำมันที่ใช้ Mineral oil
สารทำความข้น สบู่
Lithium complex
ราคา
  • 7,700 บาท (ถัง 15 กก.)

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่:

วิธีการล้างจารบีที่ติดเสื้อผ้า

แน่นอนว่าในกันใช้งานจารบีย่อมต้องมีเปรอะเปื้อนแต่ไม่ต้องกังวลใจวันนี้เรามีวิธีการล้างจารบีที่ติดเสื้อผ้ามาแนะนำให้ทุกคนกัน เราขอมาแนะนำทริคดีๆ ในการล้างจารบีโดยวิธีการล้างคราบจารบีที่ติดเสื้อผ้านั้นสามารถทำได้ง่ายมากโดยมีวิธีการล้างจารบีดังนี้

  1. ซับจารบีส่วนเกินออก ทำการซับจารบีส่วนเกินออกจากเสื้อผ้าของท่านข้อสำคัญคือห้ามเช็ดจนจาระบีทะลุเสื้อผ้าไปอีกฝั่ง
  2. เทน้ำอุ่นผสมกับน้ำส้มสายชู ทำการผสมน้ำอุ่นกับน้ำส้มสายชูเข้าด้วยกันด้วยอัตราส่วน 1 ต่อ 1
  3. นำเสื้อผ้าในส่วนที่ติดจารบีลงไปแช่ในน้ำอุ่นกับน้ำส้มสายชูที่เราผสมไว้
  4. ทำการขยี้เบาๆ เพียงเท่านี้จารบีที่ติดเสื้อผ้าก็หลุดออกแล้ว

สำหรับท่านใดที่ต้องใช้งานจารบีสามารถนำเทคนิคการล้างจารบีที่เราแนะนำให้ไปใช้ได้เลยเป็นวิธีการล้างจารบีที่ง่ายสะดวกสบายโดยที่ไม่ต้องทิ้งเสื้อผ้าของท่านไปและสามารถนำมาใช้งานได้ต่อ

เลือกใช้ให้เป็น จารบีทนความร้อนสูง ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้เป็นอย่างดี

จารบีในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบซึ่งหากทันเลือกใช้ให้เป็นก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้เป็นอย่างดี โดยทุกครั้งก่อนการใช้งานต้องศึกษาข้อมูลและรายละเอียดของจารบีให้ดีเพื่อที่จะใช้งานได้ตรงตามลักษณะงาน ทั้งหมดนี้คือจารบีที่ทนความร้อนสูงที่เรารวบรวมมาไว้ให้กับผู้ใช้ทุกท่านได้เข้ามาศึกษาหาข้อมูล


วิธีการอ่านเบอร์ Bearing SKF (ภายใน 3 นาที)

คุณอาจจะส่งสัยว่ารหัสตลับลูกปืนเช่น 6201 C3 หรือ 22224 CCK/W33 นั้นหมายความว่าอะไร นายช่างบางคนถึงกลับต้องฉีกกล่องใส่ตลับลูกปืนออกมาเพื่อใช้เวอร์เนียร์วัดตลับลูกปืนโดยตรง โดยหารู้ไม่ว่าการแกะตลับลูกปืนออกจากซองพลาสติกนั้นมีโอกาสเสี่ยงที่พวกฝุ่นเจือปน ฝุ่นผง ความชื้น เข้าไปทำลายตลับลูกปืน เพราะอย่างนั้นเราจึงไม่สมควรแกะกล่องหรือซองเก็บตลับลูกปืนเพื่อใช้เวอร์เนียร์วัดโดยตรง

การที่เราฉีกซองหรือแกะกล่องตลับลูกปืนออกมาแล้วใช้มือสัมผัสตลับลูกปืนโดยตรง จะส่งผลให้ตลับลูกปืนมีโอกาสที่จะเกิดสนิมหรืออาจจะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปปะปนอยู่ในรางวิ่งของตลับลูกปืนและไม่สามารถใช้งานได้หรือใช้งานได้ไม่เต็มที่อีกต่อไป โดยปกติหลาย ๆ ที่ใช้วิธีการแกะซองตลับลูกปืนออกมาจากชั้นวางตลับลูกปืนและใช้มือสัมผัสตลับลูกปืนโดยตรงเพื่อใช้เวอร์เนียร์วัดตลับลูกปืน ซึ่งนั่นเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องแถมยังเสียเวลาและจะสร้างความเสียหายให้กับตลับลูกปืนอีกด้วย

วิธีการอ่านดูเบอร์ลูกปืน

แล้วถ้าไม่แกะจะรู้ได้อย่างไรว่าขนาดของตลับลูกปืนนั้นมีขนาดเท่าไหร่ ?

รหัสตลับลูกปืนที่เป็นเลข 3 หลักบ้าง 4 หลักบ้าง 5 หลักบ้างนั้น บอกถึงชนิดของตลับลูกปืน ความหนา และเส้นผ่าศูนย์กลางของตลับลูกปืน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการแกะรหัสตลับลูกปืนที่ไม่จำเป็นต้องแกะมาใช้เวอร์เนียร์วัดตลับลูกปืนโดยตรง

ขั้นตอนที่ 1: ดูตัวเลขหลักแรก (หรือตัวอักษรแรก ๆ)

รหัสตัวแรก บ่งบอกถึงชนิดของตลับลูกปืน นี่คือตารางของชนิดของตลับลูกปืนทั้งหมด

รหัส ชนิด (ไทย) ชนิด (อังกฤษ)
0 ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม, ชนิดสองแถว Double Row Angular Contact Ball Bearings
1 ตลับลูกปืนเม็ดกลมปรับแนวได้เอง Self-Aligning Ball Bearing
2 ตลับลูกปืนเม็ดโค้งสองแถว และ Spherical Roller Bearings and
29 ตลับลูกปืนกันรุนเม็ดโค้ง Spherical Roller Thrust Bearings
3 ตลับลูกปืนเม็ดเรียว Taper Roller Bearings
4 ตลับลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก, ชนิดสองแถว Double Row Deep Groove Ball Bearings
5 ตลับลูกปืนกันรุนเม็ดกลม Thrust Ball Bearings
6 ตลับลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก, ชนิดแถวเดียว Single Row Deep Groove Ball Bearings
7 ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุม, ชนิดแถวเดียว Single Row Angular Contact Ball Bearings
8 ตลับลูกปืนกันรุนเม็ดทรงกระบอก Cylindrical Roller Thrust Bearings
N ตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอก Cylindrical Roller Bearings
QJ ตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสสี่จุด Four-Point Contact Ball Bearings
C ตลับลูกปืนเม็ดโค้งแถวเดียว คาร์บ CARB Toroidal Roller Bearings

 

วิธีการใช้ตารางด้านบน

ตัวอย่าง:

  • รหัสตลับลูกปืน SKF 6201 C3 ตัวเลขหลักแรกคือเลข 6 ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นตลับลูกปืนเม็ดกลมล่องลึก (Deep Groove Ball Bearing)
  • รหัสตลับลูกปืน SKF 22224 CCK/W33 ตัวเลขหลักแรกคือเลข 2 ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นตลับลูกปืนเม็ดโค้งสองแถวปรับแนวได้ (Spherical Roller Bearing)

อ่านเพิ่มเติม: รหัสต่อท้ายเยอะแยะไปหมด ไม่รู้คืออะไรบ้าง C คืออะไร CCK/W33 คืออะไร อ่านต่อที่นี่

ขั้นตอนที่ 2: ดูตัวเลขสองตัวสุดท้าย

เลข 2 ตัวสุดท้ายนั้นบ่งบอกถึงเส้นผ่าศูนย์กลางของวงแหวนวงในของตลับลูกปืน

 

วิธีการหาค่าเส้นผ่าศูนย์กลางของวงแหวนวงในตลับลูกปืน:

ขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางของวงแหวนวง (Inner Ring Diameter หรือ d) หรือเรียกง่าย ๆ คือขนาดของเพลาของเรานั่นเอง เพราะวงแหวนวงในเป็นจุดที่เราจะสวมใส่เข้ากับเพลา

เมื่อ (d < 10mm) (เมื่อขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 10mm)

  • รหัสตลับลูกปืนจะมีเครื่องหมาย “/” แทนและตัวเลขอะไรต่อจากเครื่องหมาย “/” ถือว่าเป็นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางทันที เช่น 618/7 หมายถึง ตลับลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางวงในเป็น 7mm โดยตรง

เมื่อ (d >= 10mm) และ (d < 20mm) - เมื่อขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 10-20mm

  • สำหรับกรณีนี้จะเป็นค่าตายตัวที่อาจจะต้องจำกันสักหน่อย
  • สำหรับตลับลูกปืนที่ลงท้ายด้วย 00 หมายถึง 10mm
  • สำหรับตลับลูกปืนที่ลงท้ายด้วย 01 หมายถึง 12mm
  • สำหรับตลับลูกปืนที่ลงท้ายด้วย 02 หมายถึง 15mm
  • สำหรับตลับลูกปืนที่ลงท้ายด้วย 03 หมายถึง 17mm

เมื่อ (d >= 20mm) และ (d < 500mm) - เมื่อขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ระหว่าง 20mm-500mm

  • ให้นำเลขท้ายสองตัวมาคูณกับ 5 ได้เลย
  • ยกตัวอย่าง 6206 จะมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 30mm มาจากการที่เอา 6 x 5 = 30

เมื่อ (d >= 500mm) - เมื่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางวงแหวนวงในมากกว่า 500mm ขึ้นไป

  • รหัสตลับลูกปืนจะมีเครื่องหมาย “/” แทนและตัวเลขอะไรต่อจากเครื่องหมาย “/” ถือว่าเป็นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางทันที เช่น 618/900 หมายถึง ตลับลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก ซึ่งเส้นผ่าศูนย์กลางวงในเป็น 900mm โดยตรง

 

ถ้าเรานำขั้นตอนที่ 1 กับขั้นตอนที่ 2 มารวมกันเราจะตีความได้แบบนี้เลย:

  1. 6200 = ลูกปืนเม็ดกลม เพลา 10 มม.
  2. 1208 = ลูกปืนเม็ดกลมสองแถวรับการเยื้องแนวได้ เพลา 40 มม.
  3. NU 210 = ลูกปืนเม็ดทรงกระบอก เพลา 50 มม.

อ่านต่อ: สำหรับใครที่อยากได้ Catalog ตารางเบอร์ลูกปืน SKF คุณสามารถเข้าไปที่ลิ้งค์นี้ได้ (เมื่อเข้าไปแล้วสามารถ Bookmark เก็บไว้ได้เลยครับ น่าจะได้ใช้เป็นที่อ้างอิงอยู่บ่อยครั้ง)

ถ้าหากคุณมีข้อสงสัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่เกี่ยวกับเครื่องจักรของคุณ คุณสามารถติดต่อเราเข้ามาที่ช่องทางไหนก็ได้เพื่อรับการปรึกษาฟรี เราสามารถช่วยลดต้นทุนโดยรวมของการเป็นเจ้าของเครื่องจักรโดยการเสริมความรู้ในเรื่องต่าง ๆ วิธีการเลือกใช้อะไหล่ หรืออุปกรณ์ และแนะนำตลับลูกปืน สารหล่อลื่น หรือเครื่องส่งกำลังให้เหมาะสมที่สุดเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องจักร


วิธีประกอบติดตั้งตลับลูกปืน (แบบ step-by-step)

หากคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับการทำงานภายในของเครื่องจักรหรือพยายามยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ของคุณ การทำความเข้าใจวิธีการประกอบตลับลูกปืนที่เหมาะสมเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งในการเรียนรู้ ตลับลูกปืนมีบทบาทสำคัญในการใช้งานเชิงกลต่างๆ ตั้งแต่เครื่องจักรอุตสาหกรรมไปจนถึงชิ้นส่วนยานยนต์

ในบทความนี้เราจะแนะนำคุณเกี่ยวกับกระบวนการทีละขั้นตอนในการติดตั้งตลับลูกปืนอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณมีความรู้และความมั่นใจในการจัดการกับงานที่สำคัญนี้ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าคุณจะเป็นวิศวกรที่ช่ำชองหรือผู้ที่มีความสนใจใคร่รู้ เข้าร่วมกับเราเพื่อสำรวจหลักการ เทคนิค และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการประกอบตลับลูกปืนอย่างมืออาชีพ

18% ของเครื่องจักรที่พังก่อนเวลาอันควรเกิดจากการประกอบตลับลูกปืนที่ไม่ถูกต้อง

ไม่ว่าจะเป็นการ…

  • ❌ ประกอบตลับลูกปืนอย่างไม่ถูกต้อง
  • ❌ ขนาดของพิกัดงานสวมไม่ถูกต้อง
  • ❌ เลือกใช้อุปกรณ์ในการประกอบตลับลูกปืนที่ไม่ถูกต้อง
  • ❌ เลือกใช้ตลับลูกปืนไม่ถูกต้องสำหรับการจัดวาง (ฝั่ง Locating หรือฝั่ง Non-Locating)
  • ❌ ติดตั้งไม่ตรงศูญย์ ตลับลูกปืนทำงานอย่างเยื้องแนว

ล้วนแล้วจะส่งผลให้เครื่องจักรนั้นทำงานได้อย่างไม่ปกติ เครื่องจักรจึงพังเร็วกว่าวัยอันควร

การประกอบติดตั้งตลับลูกปืนนั้นมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับขนาดและชนิดของการติดตั้งตลับลูกปืน

3 วิธีการประกอบติดตั้งตลับลูกปืน (ขึ้นอยู่กับประเภทการติดตั้งและขนาดของลูกปืน)

การประกอบติดตั้งตลับลูกปืนนั้น จริงๆ ถูกแบ่งออกเป็น 3 วิธีใหญ่ๆ:

1. การประกอบตลับลูกปืนเชิงกล (Cold Mounting)

การประกอบติดตั้งตลับลูกเชิงกลมี 2 แบบหลักๆ ด้วยกันคือ:

  • ✅ ใช้อุปกรณ์ตอกตลับลูกปืน: ชุดอุปกรณ์ช่วยตอกตลับลูกปืน TMFT 36 SKF จะเหมาะกับแบริ่งขนาดเล็กเท่านั้นและจะไว้ใช้สำหรับตลับลูกปืนที่เป็นเพลารูตรงเท่านั้น
  • ✅  ปะแจ: ปะแจขันล็อคนัท SKF จะเหมาะสำหรับแบริ่งขนาดเล็กถึงกลางแต่ไว้ใช้กับตลับลูกปืนที่มีเพลาเป็นรูเตเปอร์

วิธีดั้งเดิมที่ไม่ถูกต้อง:

  • ❌ ช่างบางท่านอาจจะใช้ฆ้อนตอกเข้าไปที่ตลับลูกปืนโดยตรง - อันนี้จะส่งผลให้ตลับลูกปืนมีตำหนิตั้งแต่ก่อนเริ่มใช้งาน เพราะตัวเม็ดลูกกลิ้งจะกระแทกเข้าไปที่รางวิ่งตลับลูกปืนทำให้เกิดตามด ที่เมื่อถึงเวลาใช้งานจริงๆ ตามดเล็กๆ นั้นจะเปิดออกจากการใช้งานและทำให้ตลับลูกปืนแตกก่อนเวลาอันควร
  • ❌ ช่างบางท่านใช้แผ่นไม้มาลองฆ้อน - อันนี้จะทำให้อาจจะมีเศษไม้ กระเด็นเข้าไปในรางวิ่งและทำให้เกิด Contamination หรือการเจือปนตั้งแต่ก่อนจะเริ่มทำงานด้วยซ้ำ ซึ่งจะส่งผลให้ตลับลูกปืนเสียหายก่อนเวลาอันควรเช่นกัน

2. การะประกอบตลับลูกปืนด้วยความร้อน (Hot Mounting)

  • ✅ เครื่องทำความร้อนตลับลูกปืน: เครื่องทำความร้อนตลับลูกปืนนั้นสามารถใช้ได้กับตลับลูกปืนทั้งขนาดเล็กกลางและใหญ่ แต่จะเหมาะแค่กับตลับลูกปืนที่เพลารูตรงเท่านั้น ไม่เหมาะกับตลับลูกปืนที่เป็นรูเตเปอร์หรือรูเรียว TIH 100M SKF และ TIH 030M SKF

วิธีดั้งเดิมที่ไม่ถูกต้อง:

  • การต้มน้ำมัน: การต้มน้ำค่อนข้างอันตรายต่อการทำงานเมื่อเทียบกับการใช้ Induction Heater หรือเครื่องฮีตแบริ่งที่เหนี่ยวนำจากกระแสไฟฟ้า

3. การประกอบตลับลูกปืนด้วยไฮดรอลิค (Oil Injection Mounting)

  • Oil Injection Mounting: วิธีประกอบติดตั้งแบบ hydraulic หรือ oil injection นั้นจะเหมาะสำหรับตลับลูกปืนที่เป็นรูเตเปอร์เท่านั้น และจะเหมาะกับตลับลูกปืนรูเตเปอร์ที่มีขนาดกลางถึงใหญ่เท่านั้น เพราะถ้าเป็นลูกปืนขนาดเล็กการใช้ปะแจขันอาจจะถูกกว่าด้านของอุปกรณ์ แต่เมื่อลูกปืนตัวใหญ่ขึ้นการใช้ปะแจจึงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากกว่า ดังนั้นการติดตั้งตลับลูกปืนแบบ hydraulic จึงเหมาะกับตลับลูกปืนที่มีขนาดกลางถึงใหญ่เป็นต้นไป

สรุป 3 วิธีการประกอบติดตั้งตลับลูกปืน (ให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น)

 

 

โอเค... คราวนี้คุณน่าจะเห็นภาพใหญ่ ๆ แล้ว ว่าอุปกรณ์ไหนเหมาะกับตลับลูกปืนแบบไหน คราวนี้เราจะมาเจาะลึกวิธีการติดตั้งแบบตั้งแต่ต้นจนจบกันเลย ว่าขั้นตอนที่ถูกต้องควรจะเป็นอย่างไร

5 ขั้นตอนวิธีประกอบติดตั้งตลับลูกปืน (อย่างเป็นขั้นเป็นตอน)

1. ตรวจสอบสภาพแวดล้อม (Mounting Environment)

การประกอบติดตั้งตลับลูกปืนนั้น หลายคนมักจะมองข้ามเรื่องความสะอาดของพื้นที่การทำงาน แต่ 18% ของตลับลูกปืนที่เสียหายจากการประกอบติดตั้งที่ไม่ถูกต้องนั้น จริงๆ ก็เริ่มมาจากสภาพแวดล้อมการติดตั้งที่ไม่สะอาดเช่นกัน

เพราะถ้าหากว่า สภาพแวดล้อมมีเศษฝุ่นผงแป้งหรือเศษไม้ลอยไปลอยมา อาจจะทำให้ตัวตลับลูกปืนนั้น Contaminate หรือเจือปนกับสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ตั้งแต่ก่อนตลับลูกปืนจะเริ่มต้นใช้งานอีกด้วยซ้ำ ดังนั้นการดูแลความสะอาดจึงเป็น 1 ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดเทียมเท่ากับ ขั้นตอนอื่น ๆ

 

2. การเตรียมความพร้อมเรื่องของอุปกรณ์ (Mounting Preparation)

การเตรียมความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ได้แก่:

  • ✅ การเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องจำใช้ในการประกอบติดตั้ง
  • ✅ การเตรียมจารบีหรือสารหล่อลื่นต่าง ๆ ที่จะใช้
    • เตรียมจารบีที่เข้ากับสภาวะการทำงาน
  • ✅ การเตรียม Drawing ของเครื่องจักร
  • ✅ เตรียมแผนการประกอบติดตั้ง ว่าควรทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอนให้ถูกต้อง
  • ✅ เตรียมอุปกรณ์การตั้ง Alignment ต่าง ๆ
  • ✅ ตรวจสอบสภาพตำแหน่งเพลาที่ตัวตลับลูกปืนจะไปติดตั้งว่ามีความสะอาดและเรียบร้อยดี
  • ✅ ตรวจสอบสภาพตัวเสื้อที่จะใช้กับตลับลูกปืนที่จะติดตั้ง
    • ถ้าสภาพไม่ดี อาจจะต้องใช้กระดาษทรายช่วย หรือต้องเปลี่ยนเพลาหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ใหม่
  • ✅ มือของผู้ติดตั้งต้องแห้งและสะอาด

หากคุณยังเลือกจารบีไม่ถูกต้อง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่: ตารางจารบี วิธีเลือกจารบี ครบจบที่เดียว

3. วัดพิกัดงานสวมเพลาให้ถูกต้อง (Bearing Fit & Tolerance)

ในความจริงแล้วเพลาที่อาจจะดูกลมในสายตามนุษย์เรา แต่จริง ๆ แล้วเพลาทุกตัวจะมีค่าความคาดเคลือดอยู่ในระดับนึง

เพลาที่ใช้เวอร์เนียร์ธรรมดาวัดออกมาได้ 150 มม. แต่ถ้าหากคุณใช้ Micrometer วัดคุณจะเห็นค่าความคลาดเคลื่อนพิกัดงานสวมของเพลาที่ไม่ตรง 150 มม. ทุกมุมก็เป็นไปได้

 

 

 

 

 

 

 

จากรูปด้านบนคุณจะเห็นได้ว่าเพลาไม่ได้กลมดิ๊ก แต่ในแต่ละมุม มีค่าความคาดเคลื่อนอยู่แถว 0.015 มม. - 0.040 มม. ซึ่งตกอยู่ในค่าความคาดเคลื่อน m6

วิธีการวัดก็คือ คุณจะต้องมี Micrometer 1 ตัวเพื่อใช้วัดประมาณ 4 จุด 2 ตำแหน่ง (ตำแหน่งละ 4 จุด รวมเป็น 8 จุด) ในแนวแกนรอบเพลา ตามตัวอย่างนี้:

เมื่อคุณได้ขนาดของเพลาความละเอียดเป็นหน่วยไมครอนแล้ว คุณก็จะสามารถเช็คได้ว่าเพลาของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่จะสามารถนำมาใช้กับตลับลูกปืนของคุณหรือไม่

  • ✅ หากได้ คุณสามารถดำเนินการต่อได้เลย
  • หากไม่ได้ คุณจำเป็นจะต้องล้างเพลาใหม่ หรือเปลี่ยนเพลาที่ได้ค่าพิกัดงานสวมมากกว่านี้

หมายเหตุสำคัญ:

❌ ถ้าหากเพลาสวมแน่นเกินไป: จะทำให้แหวนวงในของตลับลูกปืนเบ่งตัว ส่งผลให้ลูกกลิ้งในรางวิ่งบีบอัดแน่นจนเกินไป อาจจะทำให้การหมุนของเม็ดลูกกลิ้งฝืดลงหรือหยุดหมุนบางชั่วชณะก็เป็นไปได้

❌ ถ้าหากเพลาสวมหลวมเกินไป: จะทำให้ตัวเพลาหมุนฟรี เพราะวงแหวนวงในไม่หมุนตาม ทำให้เกินสนิมที่เกิดจากแรงเสียดสี และส่งผลให้ตลับลูกปืนเสียก่อนเวลาอันควรก็เป็นได้

อ่านต่อ: ตารางพิกัดงานสวม พิกัดความเผื่อ สำหรับประกับตลับลูกปืนเข้ากับเพลา

หากไม่ทราบว่า ลูกปืนหรือสภาวะการใช้งานของตลับลูกปืนของคุณอยู่ในพิกัดงานสวมเบอร์อะไร สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่:

 

4. การเคลื่อนย้ายตลับลูกปืน (Bearing Handling)

สำหรับลูกปืนลูกเล็ก การเคลื่อนย้ายลูกปืนอาจจะทำได้ง่ายได้ แต่หากงานของคุณต้องใช้ตลับลูกปืนลูกใหญ่

วิธีการเคลื่อนย้ายหรือยกตลับลูกปืนลูกใหญ่:

ถ้าหากคุณเคลื่อนย้ายตลับลูกปืนลูกใหญ่โดยวิธีที่ผิด (รูปด้านขวา) ตัวตลับลูกปืนอาจจะได้รับผลกระทบ อาจจะผิดรูปหรือเกิดการสึกหลอซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายที่อาจจะตามมาเช่นตลับลูกปืนเสียหายก่อนเวลาอันควรได้

 

5. การประกอบตั้งลูกปืน

การประกอบติดตั้งตลับลูกปืนแต่ละชนิด แต่ละขนาดอาจจะมีอุปกรณ์ช่วยประกอบที่แตกต่างกันออกไป

โดยที่จุดหลักๆ ที่จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่า จะใช้เครื่องมือหรือวิธีการประกอบติดตั้งแบบไหนนั้น ขึ้นอยู่กับ:

  1. รูเพลาตรง หรือ รูเพลาเรียว
  2. ขนาดของรูเพลา (วงแหวนวงในลูกปืน)

โดยที่เราสามารถสรุปได้ตามตารางด้านล่างนี้ทั้งหมด:

อุปกรณ์การติดตั้งลูกปืนเพลารูตรง (Cylindrical Bore)

ประเภทการติดตั้ง ขนาดรูเพลาของแบริ่ง อุปกรณ์ที่ต้องใช้
ประกอบด้วยแรงเชิงกล (Cold Mounting) 10-50 มม. TMFT 36 (Bearing Fitting Tools)
ประกอบด้วยความร้อน (Hot Mounting) 20-300 มม.
20-400 มม.
ประกอบด้วยไฮดรอลิก (Hydraulic Mounting) -

อุปกรณ์การติดตั้งลูกปืนเพลารูเรียว (Tapered Bore)

ประเภทการติดตั้ง ขนาดรูเพลาของแบริ่ง อุปกรณ์ที่ต้องใช้
ประกอบด้วยแรงเชิงกล (Cold Mounting) 10-100 มม. Hook Spanner
ประกอบด้วยความร้อน (Hot Mounting) -
ประกอบด้วยไฮดรอลิก (Hydraulic Mounting) 100 มม. ขึ้นไป
Hydraulic nuts HMV Series, Hydraulic Pump

 

ถ้าหากอยากทราบความแน่นในการขัน Hook Spanner หรือข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ คุณสามารถปรึกษาเราได้ฟรีตามปุ่มด้านล่างนี้

สรุป

ในบทความนี้เราได้เรียนรู้ถึงขั้นตอนการประกอบติดตั้งตลับลูกปืน ซึ่งโดยปกตินายช่างจะมองข้ามจุดย่อย ๆ ที่อาจจะดูไม่สำคัญ แต่ในความเป็นจริงแล้วการถนุถนอมลูกปืนตั้งแต่ต้นยันจบมีส่วนช่วยให้อายุการใช้งานของตลับลูกปืนยาวนานขึ้นอีกเป็นอย่างมาก

หากมีคำถามสงสัยเพิ่มเติมโปรดติดต่อเข้ามาที่ร้านเตียวโม่วเส็งโดยตรงที่ปุ่มด้านล่างนี้:

 


ลูกปืนมอเตอร์ แบริ่งใช้กับมอเตอร์ ใช้รุ่นไหนดี?

การใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในงานอุตสาหกรรมสำหรับเครื่องจักร ถือเป็นต้นกำลังการผลิตที่นิยมที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งลูกปืนมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างส่วนที่เคลื่อนไหวและส่วนที่ถูกจับติดกัน ในบทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องของลูกปืนชนิดใหนที่เหมาะกับการใช้คู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกใช้ในงานต่างๆ ดังนั้น มาเริ่มต้นที่ความเข้าใจพื้นฐานของลูกปืนและการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้ากันก่อนครับ

การเลือกใช้ลูกปืนให้เข้ากับมอเตอร์ของคุณนั้น อาจจะต้องดูจากหลายปัจจัย แต่เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจแล้วนำไปปฏิบัติได้ทันที เราจึงขอสรุปง่ายๆ ด้วย 2 ข้อดังนี้:

1. ประเภทการติดตั้ง

ประเภทการติดตั้ง เช่นการติดตั้งเพลาการทำงานแบบแนวนอน หรือการทำงานแบบเพลาแนวตั้งส่งผลให้การจะต้องใช้ตลับลูกปืนที่แตกต่างกันไป เพราะด้วยวิถีการทำงานของการติดตั้งเพลาทั้งสองชนิด ตัวตลับลูกปืนมีการรับโหลดในแนวแกนและแนวรัสมีที่แตกต่างกันออกไป

เช่นในกรณีที่เพลามอเตอร์ของคุณทำงานในแนวตั้ง ตัวตลับลูกปืนจำเป็นจะต้องรับโหลดในแนวแกนสูงกว่า (เพราะตัวลูกปืนต้องรับโหลดของตัวเพลาในแนวแกนแทนในแนวรัสมีเมื่อเทียบกับการติดตั้งเพลาแบบแนวนอน) ดังนั้นการเลือกใช้ตลับลูกปืนจึงเป็นการเลือกโดยที่ต้องคำนึงถึงการรับแรงในแนวแกนเป็นหลัก

2. ขนาดของลูกปืน (และเพลา)

แน่นอนว่าขนาดของลูกปืนกับเพลาโดยปกติจะสอดคล้องกัน การที่เราบอกว่าลูกปืนขนาดเล็กกลางหรือใหญ่เราดูจากขนาดของรูเพลา เช่นว่าถ้ารูเพลาใหญ่กว่า 100 มม. เป็นต้น เราอาจจะเรียกว่าเป็นลูกปืนกลางถึงใหญ่ได้

 

วิธีเลือกลูกปืนสำหรับใช้กับมอเตอร์ไฟฟ้า (แบบสรุป)

ประเภทการติดตั้งเพลา ขนาด สำหรับฝั่งกำหนดตำแหน่ง (ฝั่ง Fix) สำหรับฝั่งไม่กำหนดตำแหน่ง (ฝั่ง Free)
เพลาแนวนอน เล็ก ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx) ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx)
เพลาแนวนอน เล็ก ถึง กลาง ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx) ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx)
เพลาแนวนอน กลาง ถึง ใหญ่ ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx) ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx)

ลูกปืน CARB (Cxxx)

เพลาแนวนอน ใหญ่ ถึง ใหญ่มาก ลูกปืนเม็ดโค้งสองแถว (2xxxx) ลูกปืนเม็ดโค้งสองแถว (2xxxx)

ลูกปืน CARB (Cxxx)

เพลาแนวตั้ง เล็ก ถึง กลาง ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx) ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx)
เพลาแนวตั้ง กลาง ถึง ใหญ่ ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx)

ลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมแบบประกบ (7xxx)

ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก (6xxx)
เพลาแนวตั้ง ใหญ่ ถึง ใหญ๋มาก ลูกปืนเม็ดโค้งกันรุน (29xxx, 28xxx) ลูกปืน CARB (Cxxx)

🔥 ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับลูกปืนมอเตอร์

มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมีความเสี่ยงเมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านตลับลูกปืน สิ่งนี้สามารถทำลายพื้นผิวสัมผัสของชิ้นส่วนลูกกลิ้งและร่องน้ำในตลับลูกปืน (การสึกกร่อนทางไฟฟ้า) และทำให้จาระบีเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงเพิ่มเติมในมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้ามาจากกระแสความถี่สูงที่เกิดจากความจุไฟฟ้าจรจัดโดยธรรมชาติ

 

 

ลอยกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในลูกปืนมอเตอร์
รอยความเสี่ยงหายที่จะเกิดขึ้นกับรางวิ่งของตลับลูกปืน

 

ขอแนะนำ: ลูกปืนกันกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน INSOCOAT Bearing

 

ตลับลูกปืน INSOCOAT SKF แก้ปัญหาความเสียหายของกระแสไฟฟ้าไหลผ่านโดยการออกแบบที่เป็นฉนวนป้องกันไฟฟ้า ในระบบอุตสาหกรรมและเครื่องจักรต่างๆ บางครั้งกระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านตลับลูกปืนได้เนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น กระแสไหลหลง การต่อลงดินไม่สมบูรณ์ หรือตัวแปลงความถี่ เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น อาจนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่เรียกว่าไฟฟ้าอาร์ค

การเกิดไฟฟ้าอาร์คอาจทำให้ชิ้นส่วนลูกกลิ้งและรางวิ่งของตลับลูกปืนมาตรฐานเสียหายเป็นคลื่น ส่งผลให้ตลับลูกปืนเสียหายก่อนเวลาอันควรและเพิ่มค่าบำรุงรักษา นี่เป็นปัญหาอย่างยิ่งในมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งฉนวนของขดลวดมอเตอร์อาจล้มเหลวและปล่อยให้กระแสไหลผ่านเพลาและเข้าไปในตลับลูกปืน

ด้วยการใช้ตลับลูกปืน Insocoat อุตสาหกรรมสามารถลดความเสี่ยงของความเสียหายของตลับลูกปืนและการหยุดทำงานของอุปกรณ์ที่ตามมา ส่งผลให้มีความน่าเชื่อถือที่ดีขึ้นและลดต้นทุนการบำรุงรักษาสำหรับระบบที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า

ลูกปืน INSOCOAT Bearing SKF มีแบบไหนบ้าง?

หลัก ๆ INSOCOAT Bearing ของ SKF จะมีทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน

  • ลูกปืนเม็ดกลมร่องลึกแบบป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน (6xxx)
  • ลูกปืนเม็ดทรงกระบอกแบบป้องกันกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน (ตระกูล N)

คุณสมบัติพิเศษของ INSOCOAT Bearing SKF

  • PLASMASPRAY COATING: การเคลือบฉนวนด้วยเทคนิค Plasmaspray
  • HUMIDITY PROTECTION: ตลับลูกปืน INSOCOAT ได้รับการดูแลด้วยสารกันซึมที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อป้องกันความชื้นและน้ำไม่ให้เข้าสู่ชั้นเคลือบและลดความมีประสิทธิภาพของมันลง
  • GREAT QUALITY: ความหนาแน่นและความรู้สึกที่เป็นที่เชื่อถือได้ในการฉนวนและต้านตัวกลางที่แทบไม่ได้รับผลกระทบจากความร้อน ความชื้น และสารเคมี
  • ENVIRONMENTALLY FRIENDLY: ตัวสินค้าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • SUITABLE FOR ALL TYPES OF HOUSINGS: ตัวลูกปืนสามารถใส่เข้าได้กับลูกปืนตัวเก่าของคุณ

 

ความคิดเห็นจากลูกค้า

Por Smartfool
Por Smartfool
23:37 08 Oct 21
บริการดีมากกกก แนะนำดีสุดๆ มั้นใจเลยได้ของดีชัว
Narong Pornrattananukul
Narong Pornrattananukul
10:32 17 Jun 21
ครบครันต้องร้านนี้เลย บริการดี ส่งของไว ใส่ใจลูกค้า
Anon Tatvichai
Anon Tatvichai
11:00 16 Jun 21
ซื้อกันมานานจนมั่นใจว่าจะได้ของแท้แน่นอน ลืมเรื่องลูกปืนปลอมไปเลย ทุกวันนี้แทบไม่ต้องเช็คของอีกเลย เซลใส่ใจและตามดูแลหน้างานให้ตลอด ขอบคุณ TMS ที่เอาใจใส่ลูกค้านะครับ
See All Reviews
js_loader

ทำไมถึงต้องซื้อกับ เตียวโม่วเส็ง (TMS)?

  • ตัวแทนจำหน่าย SKF อย่างเป็นทางการ
  • ✅ ประสบการณ์มากกว่า 60 ปี ยอดขายอันดับ 1 ในประเทศไทย
  • คลังสินค้าหลากหลาย พร้อมส่ง ไม่ต้องรอนาน
  • ✅ ยินดีให้คำปรึกษาทั้งด้านเทคนิค พร้อมเข้าตรวจสอบหน้างาน
  • ✅ ส่งไว ปลอดภัย ทั่วประเทศ

ขอใบเสนอราคาเลย ติดต่อเราได้ที่


รังลูกปืนคืออะไร? คุณสมบัติของรังลูกปืนแต่ละชนิด

รังลูกปืน (Cage) คือส่วนประกอบหนึ่งของตลับลูกปืนที่มีบทบาทสำคัญ โดยส่วนประกอบนี้มีประโยชน์ในการรวมและระบุหรือกำหนดตำแหน่งของเม็ดลูกกลิ้งภายในโครงสร้างของลูกปืน การออกแบบและเลือกใช้รังลูกปืนที่เหมาะสมสำหรับแต่ละแอปพลิเคชันเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากส่งผลต่อประสิทธิภาพและความทนทานของลูกปืน ในบทความนี้เราจะศึกษาสำคัญของรังลูกปืนในลูกปืน วัสดุที่ใช้ในการผลิต รวมถึงประเภทต่างๆ และการดูแลรักษาเพื่อให้ลูกปืนมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและให้ประสิทธิภาพในการทำงานเต็มที่

อ่านต่อเพิ่มเติม: แบริ่งคืออะไร? ลูกปืนคือ?

ความสำคัญของรังลูกปืน

เมื่อพูดถึงรังลูกปืนที่เป็นส่วนประกอบของลูกปืน นั้นมีความสำคัญมากในด้านต่อไปนี้:

1. การประคองเม็ดลูกกลิ้งให้อยู่ในตำแหน่งที่สมดุล

รังลูกปืนมีบทบาทในการประคองเม็ดลูกกลิ้งให้อยู่ในตำแหน่งที่มีความสมดุลกัน เพื่อให้ลูกปืนอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและคงที่ นั่นส่งผลให้ลูกปืนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและนานนับปี

2. การลดแรงเสียดทาน

เมื่อมีการหมุนหรือเคลื่อนไหวในลูกปืน ส่วนประกอบต่างๆ อาจชนกันหรือสัมผัส รังลูกปืนจะช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างส่วนประกอบเหล่านั้น ทำให้ลดความเสียหายและเสียงรบกวนในการทำงานของลูกปืน

3. การลดความเร่ง

รังลูกปืนมีบทบาทในการลดความเร่งของลูกปืนภายในท่านต่างๆ ทำให้ลูกปืนทำงานได้อย่างนุ่มนวลและไม่ส่งผลต่อการเกิดความเสียหาย

4. ความปลอดภัยในการทำงาน

รังลูกปืนมีบทบาทในการรักษาลูกปืนในท่านต่างๆ ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้สามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ เช่น การหลุดที่ลูกกลิ้งออกไปจากตัวตลับลูกปืน ที่อาจเป็นอันตรายและส่งผลร้ายต่อเครื่องจักรและผู้ใช้งาน

 

วัสดุและประเภทของรังลูกปืนในลูกปืน

รังลูกปืนในลูกปืนสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันตามลักษณะงานและการใช้งาน บทความนี้จะกล่าวถึงประเภทของรังลูกปืนที่ค่อนข้างแพร่หลายดังนี้:

1. รังลูกปืนแบบโลหะ (รังเหล็กหรือรังทองเหลือง Steel / Brass Cage)

รังลูกปืนแบบโลหะมีความแข็งแรงสูงและมีการระบุตำแหน่งของลูกปืนอย่างแม่นยำ แต่อาจทำให้เกิดเสียงรบกวนเมื่อลูกปืนทำงาน รังลูกปืนแบบโลหะเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำและความแข็งแรงเช่น อุตสาหกรรมเครื่องจักร และยานยนต์

2. รังลูกปืนแบบพลาสติก (รังโพลียาไมด์ Polyamide)

รังลูกปืนแบบพลาสติกมีน้ำหนักเบาและสามารถลดเสียงรบกวนในการทำงานของลูกปืน แต่ความแข็งแรงไม่เท่ากับรังลูกปืนแบบโลหะ มักใช้ในงานที่ต้องการความเงียบและน้ำหนักเบา เช่น เครื่องใช้ในบ้านและอุตสาหกรรมเบา

3. รังลูกปืนแบบนวัตกรรมวัสดุ (รังกราไฟต์ รังเหล็กหล่อ รังโพลิเมอร์วิศวกรรม)

รังลูกปืนแบบนวัตกรรมวัสดุสามารถรองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่แปรปรวนได้ และมีความแข็งแรงสูง นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบาเช่นกัน รังลูกปืนแบบนวัตกรรมวัสดุเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง

 

ความแตกต่างระหว่างรังลูกปืนแต่ละชนิด

รังเหล็ก

  • รังเหล็กกล้าอัดขึ้นรูป
    • ทนอุณหภูมิทำงานได้สูงสุด 300°C
    • มีน้ำหนักเบา ความแข็งแรงสูง
    • ชุบผิวแข็งเพื่อลดความฝืดหรือลดการสึกหรอได้
  • รังดัดกลึงขึ้นรูป
    • อาจปรับปรุงสภาพผิวเพื่อลดความฝืดและลดการสึกหรอ
    • ทนน้ำมันแร่หรือน้ำมันสังเคราะห์ได้
    • ทนสารทำละลาย Organic ที่ใช้ล้างลูกปืนได้

รังทองเหลือง

  • รังทองเหลืองอัดขึ้นรูป (พบในลูกปืนขนาดเล็กถึงกลาง)
    • ทนอุณหูมิทำงานได้สูงสุด 250°C
    • ไม่เหมาะ กับคอมเพรสเซอร์ทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนีย
    • ควรใช้รังทองเหลืองหรือรังเหล็กกล้าดัดขึ้นรูปแทน รังทองเหลืองตัดกลึงขึ้นรูปผลิตจากทองเหลืองหล่อ
  • รังทองเหลืองตัดกลึง
    • ทนสารหล่อลื่นได้ดีเป็นส่วนใหญ่รวมทั้งน้ำมันสังเคราะห์และจาระบี
    • ใช้สารละลายออแกนิคทำความสะอาดรังได้

อยากเรียนรู้เกี่ยวกับรหัสต่อท้ายลูกปืนเพิ่มเติม: ตารางรหัสต่อท้ายลูกปืน SKF ครบจบที่เดียว

รังโพลียาไมด์ 6.6 (PA66)

  • มีทั้งแบบผสมใยแก้วเพื่อเสริมความแข็งแรง และไม่ผสมใยแก้ว
  • ทนอุณหภูมิทำงานได้สูงสุด 80 - 120°C ขึ้นกับสารหล่อลื่นที่ใช้
  • ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นขึ้นอยู่กับอุณหภูมิทำงาน
  • การเสื่อมอายุของรังขึ้นกับอุณหภูมิ ระยะเวลา และสารหล่อลื่นที่สัมผัสอยู่ร่วมกัน
  • อายุลดลงเมื่ออุณหภูมิการทำงานสูงขึ้น และสารหล่อลื่นมีการกัดกร่อนมากขึ้น

รังโพลียาไมด์ 4.6 (PA46)

  • เป็นวัสดุมาตรฐานในตลับลูกปืน CARB ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง
  • ทนอุณหภูมิทำงานได้สูงกว่า 80 - 135°C

รังโพลีอีเธอร์อีเธอร์คีโทน (PEEK)

  • รัง PEEK เสริมใยแก้ว เหมาะกับงานความเร็วสูง ต้านทานสารเคมีและทนอุณหภูมิได้สูงกว่า PA66 และ PA46
  • นิยมใช้ในตลับลูกปืนเม็ดกลม ตลับลูกปืนไฮบริด หรือตลับลูกปืนเม็ดทรงกระบอกความแม่นยำสูง
  • ไม่เสื่อมสภาพแม้อุณหภูมิสูงขึ้นถึง 200°C
  • แต่กำหนดอุณหภูมิใช้งานสูงสุดในความเร็วรอบสูงไว้ที่ 150°C เพราะเป็นจุดที่วัสดุเริ่มอ่อนตัว

รังฟีนอลิก

  • รังฟีนอลิกเสริมเส้นใยแก้ว มีน้ำหนักเบา ทนแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ และความเร่งได้ดี แต่ทนอุณหภูมิสูงไม่ได้ ส่วนมากใช้ในตลับลูกปืนเม็ดกลมสัมผัสเชิงมุมความแม่นยำสูงรุ่นมาตรฐาน

รังกราไฟต์

  • ใช้ในตลับลูกปืนเม็ดกลมร่องลึก หรือตลับลูกปืนวายแบริ่ง ที่ทนความร้อนได้สูงถึง 350°C รหัสต่อท้าย VA208 หรือ VA228

 

สรุป

รังของตลับลูกปืนมีหน้าที่สำคัญต่อตลับลูกปืนเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม รังนั้นมีให้เลือกใช้หลายวัสดุ ที่มีความสามารถแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับหน้างานว่าเครื่องจักรของคุณทำงานในสภาวะแบบไหน

การเลือกใช้รังลูกปืนที่เหมาะสมนั้น จะช่วยให้ตลับลูกปืนของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นอย่างแน่นอน

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม ไม่แน่ใจว่าจะใช้รังลูกปืนแบบไหนให้เหมาะสมกับงานของคุณ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่เตียวโม่วเส็งตามปุ่มด้านล่างนี้

 

 

 

 


เวอร์เนียร์ คาลิปเปอร์คืออะไร? ใช้ยังไง?

เวอร์เนียลคาลิเปอร์ (Vernier Caliper) เป็นเครื่องมือวัดที่ใช้ในการวัดความยาว, รัศมีภายนอก, รัศมีภายใน, และความหนาของวัตถุได้อย่างแม่นยำ มันถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำงานในวิทยาศาสตร์, วิศวกรรม, และอุตสาหกรรมทั่วไป วอร์เนียลคาลิเปอร์ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ที่มีความสำคัญดังนี้:

เวอร์เนียร์_1

  1. ส่วนมือจับ: เป็นส่วนที่ใช้ในการจับและควบคุมเครื่องมือ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างมั่นคง
  2. ส่วนของมาตรวัดหลัก: เป็นส่วนที่ใช้ในการวัดความยาว ส่วนนี้มีรูปร่างเป็นเหลี่ยมสี่เหลี่ยมและมีลายเส้นที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าการวัดได้อย่างแม่นยำ
  3. ส่วนของมาตรวัดเสริม: เป็นส่วนที่ใช้ในการวัดรัศมีภายนอก, รัศมีภายใน, และความหนาของวัตถุ ส่วนนี้มีลายเส้นเล็กๆ ที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าการวัดได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

วิธีการใช้งานวอร์เนียลคาลิเปอร์:

  1. การวัดความยาว: เมื่อต้องการวัดความยาวของวัตถุ ให้ใช้ส่วนของมาตรวัดหลักที่มีลายเส้นเป็นหน่วยมิลลิเมตร (mm) วางวัตถุที่ต้องการวัดในระหว่างที่ปรับตำแหน่งวอร์เนียลคาลิเปอร์ให้สอดคล้องกับขอบของวัตถุ และอ่านค่าที่ปรากฏบนส่วนของมาตรวัดเสริม เพื่อให้ได้ค่าความยาวที่แม่นยำ
  2. การวัดรัศมีภายนอก: เพื่อวัดรัศมีภายนอกของวัตถุ ให้ใช้ส่วนของมาตรวัดเสริมที่มีลายเส้นเป็นหน่วยมิลลิเมตร (mm) ปรับตำแหน่งวอร์เนียลคาลิเปอร์ให้สอดคล้องกับรัศมีภายนอกของวัตถุ และอ่านค่าที่ปรากฏบนส่วนของมาตรวัดเสริม เพื่อให้ได้ค่ารัศมีภายนอกที่แม่นยำ
  3. การวัดรัศมีภายใน: เมื่อต้องการวัดรัศมีภายในของวัตถุ ให้ใช้ส่วนของมาตรวัดเสริมที่มีลายเส้นเป็นหน่วยมิลลิเมตร (mm) ปรับตำแหน่งวอร์เนียลคาลิเปอร์ให้สอดคล้องกับรัศมีภายในของวัตถุ และอ่านค่าที่ปรากฏบนส่วนของมาตรวัดเสริม เพื่อให้ได้ค่ารัศมีภายในที่แม่นยำ
  4. การวัดความหนา: เมื่อต้องการวัดความหนาของวัตถุ ให้ใช้ส่วนของมาตรวัดเสริมที่มีลายเส้นเป็นหน่วยมิลลิเมตร (mm) ปรับตำแหน่งวอร์เนียลคาลิเปอร์ให้สอดคล้องกับความหนาของวัตถุ และอ่านค่าที่ปรากฏบนส่วนของมาตรวัดเสริม เพื่อให้ได้ค่าความหนาที่แม่นยำ

ตัวอย่างการนำไปใช้จริง:   วิธีใช้เวอร์เนียร์เพื่อหาขนาดของแบริ่งหรือลูกปืน

ค่าที่สำคัญที่สุด 3 ค่าขนาดของตลับลูกปืนคือขนาดของ:

1. วงแหวนวงใน: ซึ่งจะเป็นรูที่อยู่ตรงกลางของลูกปืน หรือเราสามารถเรียกจุดนี้ว่า "รูเพลา" ได้ เพราะว่าวงแหวนวงในเป็นชิ้นส่วนของตลับลูกปืนที่จะสวมเข้ากับเพลาของเครื่องจักรโดยตรง

 

2. วงแหวนวงนอก: วงแหวนวงนอกมีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกันในการวัดตลับลูกปืน เพราะวงแหวนวงนอกจะเป็นส่วนของตลับลูกปืนที่จะนั่งอยู่กับตัวเสื้อของเครื่องจักร


 

3. ความเหนา: ความเหนาของลูกปืนเมื่อเทียบกับวงแหวนวงนอกแล้ว จะสามารถบ่งบอกได้ถึงความสามารถในการรับโหลดของตลับลูกปืนชิ้นนั้นๆ ความหนายิ่งสูงเมื่อเทียบกับวงแหวนวงนอก หมายความลูกปืนนั้นจะยิ่งมีความสามารถในการรับโหลดยิ่งสูงเช่นเดียวกัน

เวอร์เนียร์_2

 

วอร์เนียลคาลิเปอร์เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการทำงานในด้านการวัดและวิเคราะห์ทางเทคนิค แม้ว่าอาจจะมีความซับซ้อนในการใช้งาน แต่เมื่อเราปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และใช้ความระมัดระวังในการใช้งาน วอร์เนียลคาลิเปอร์จะช่วยให้เราสามารถวัดและวิเคราะห์ทางเทคนิคได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น